บทเรียน : พระเจ้าเรียกอับราฮัม

เมื่อกลับบ้านวันนี้ หนูจะได้

  • รู้ว่าพันธสัญญาที่พระเจ้าทำกับอับราฮัม เป็นสัญญาที่ส่งผลถึงตัวหนูในวันนี้
  • รู้ว่าพระเจ้าอวยพรผู้ที่เชื่อฟังและรักพระองค์
  • มั่นใจว่าพระเจ้าของหนูเป็นพระเจ้าที่สัตย์ซื่อ และรักษาสัญญาของพระองค์เสมอ

ข้อท่องจำ

“อับราฮัมเชื่อในพระเจ้าและเพราะความเชื่อนั้นเอง พระเจ้าทรงถือว่าท่านเป็นคนชอบธรรม” -โรม 4:3

T I P S สำหรับคุณครู

ตารางเก็บคะแนนสำหรับเด็กในห้องเรียน มักถูกใช้เพื่อกระตุ้นความสนใจของเด็กในชั้นเรียน ทำให้เด็กเกิดความตื่นเต้นและสนุก ในทางกลับกัน มันอาจจะทำให้เด็กอีกส่วนหนึ่ง เช่น เด็กที่อายุน้อยกว่า เด็กเรียนรู้ช้ากว่าเด็กปกติ อาจรู้สึกถูกทิ้งท้าย ส่วนเด็กที่มาใหม่ หรือเด็กที่ผู้ปกครองมาไม่สม่ำเสมอ คงจะรู้สึกไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของชั้นเรียน หากชั้นเรียนครูให้ความสำคัญกับมันมาก อาจทำให้เด็กบางคนกลัว กังวล และส่งผลให้ไม่อยากมาร่วมเรียนอีก  ดังนั้นขอให้ครูใช้วิจารณญาณในการสังเกต และประเมินดูเด็กในชั้นเรียนและใช้ตารางเก็บคะแนนอย่างเหมาะสม

เกม“หยอดหลุม”

สิ่งที่ต้องเตรียม

  • เก้าอี้ที่มีพนัก (เก้าอี้สำหรับเด็กจะเหมาะมาก) 1 ตัว
  • ขวดปากกว้าง หรือ แก้วน้ำทรงสูง 1 ใบ
  • ก้อนกรวดเล็กๆ หรือ เม็ดมะขาม เมล็ดถั่วแดงก็ได้ 10 เม็ดขึ้นไป

วิธีเล่น

  • ให้เด็กยืนเข้าแถวเรียงหนึ่งด้านหน้าเก้าอี้ วางขวดปากกว้างหรือแก้วน้ำที่เตรียมไว้ด้านหลังของเก้าอี้ เพื่อจะให้เด็กเอื้อมมือไปข้างหน้า เพื่อหยอดก้อนกรวดลงในขวด
  • ครูอาจจะกำหนดว่าเด็กแต่ละคนหยอดได้คนละ 5 เม็ด โดยที่ตัวห้ามโดนเก้าอี้ (เพราะฉะนั้นครูอย่าเลือกเก้าอี้ที่ตัวใหญ่เกินไปสำหรับเด็ก)
  • นับแต้มตามจำนวนเม็ดที่ลงหลุม ใครได้มากกว่าก็ชนะ ครูอาจตกลงกันก่อนว่าเด็กแต่ละคนจะได้หยอดกี่รอบ (ขึ้นอยู่กับจำนวนเด็กและเวลาที่มี)
  • เกมหยอดหลุมจะช่วยเด็กในเรื่องการฝึกสมาธิ การกะระยะ การทรงตัว และช่วยทำให้เด็กๆ ใจเย็นลง

บทนำเรื่อง

ความเชื่อคือความแน่ใจในสิ่งที่เราหวังไว้ เป็นความรู้สึกมั่นใจว่า สิ่งที่ยังไม่ได้เห็นนั้นมีจริง หากหนูจะเดินทางไปประเทศจีน หนูอาจจะต้องนั่งเครื่องบินไป และเมื่อหนูซื้อตั๋วเครื่องบินแล้ว หนูคงต้องเชื่อว่าเครื่องบินนั้นจะสามารถพาหนูบินลัดฟ้าไปถึงเมืองจีนได้ ทั้งๆ ที่หนูก็ไม่เคยขึ้นเครื่องบิน ไม่รู้จักมักจี่กับนักบิน ความเชื่อก็คล้ายๆ กัน เป็นความหวังใจ ความแน่ใจในสิ่งที่พระเจ้าจะกระทำทั้งๆ ที่เหตุการณ์นั้นยังไม่เกิดขึ้น ยกตัวอย่างให้หนูเห็นได้ชัดเจนขึ้น (ให้ครูวางของเป็นเครื่องกีดขวางบนพื้นห้องเรียน ขอให้เด็กหนึ่งคนอาสาเอาผ้าปิดตาไว้ และให้ครูบอกทางเด็กให้สามารถเดินผ่านเครื่องกีดขวางเหล่านั้นได้ สามารถลองทำได้หลายๆ คน เพื่อให้เด็กมีประสบการณ์ในการวางใจ) ครูถามเด็กๆ ว่าเป็นอย่างไรบ้างเมื่อต้องเดินไปข้างหน้าโดยมองไม่เห็นอะไร? หนูรู้สึกอย่างไร? กลัวไหม? และหนูสามารถเชื่อเสียงของครูได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ไหม?

เมื่อหนูเชื่อในพระเจ้า หนูไม่สามารถรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับหนูได้ แต่หนูสามารถมั่นใจได้ว่าถ้าหนูฟังเสียงของพระองค์ และยอมทำตามที่พระองค์บอก หนูก็จะถึงจุดหมายด้วยความปลอดภัย และหากทางมันมีอุปสรรคมาก พระเจ้าก็สัญญาว่าจะไม่ทอดทิ้งหรือละทิ้งหนูไปแน่นอน

เล่าเรื่องจากพระคัมภีร์

เมื่อหลายพันปีก่อน ในเวลานั้นยังไม่มีรถ รถบรรทุกไว้เดินทาง ผู้คนใช้สัตว์เป็นพาหนะเช่น ช้าง ม้า วัว และเรื่องที่ครูจะเล่าจากพระคัมภีร์วันนี้ เกิดขึ้นในแผ่นดินที่เป็นทะเลทราย หนูลองเดาได้ไหมว่าเขาใช้สัตว์อะไรเป็นพาหนะ?  ใช่แล้ว เขาใช้อูฐ ลา สัตว์ที่ทนต่ออากาศร้อนมากๆ

ภาพที่ 1  วันหนึ่งพระเจ้าทรงเรียกชายคนหนึ่งชื่อว่า อับราม พร้อมทั้งภรรยาของเขาคือซาราย ให้ออกเดินทางไกลไปยังสถานที่พิเศษแห่งหนึ่งที่พระเจ้าจัดเตรียมให้เขา ในขณะนั้นอับรามอาศัยอยู่กับครอบครัว และญาติพี่น้องในเมืองเออร์ (ประเทศอีรัก แถบตะวันออกกลางในปัจจุบัน) เพราะเขาเชื่อฟังพระเจ้า เขาจึงออกเดินทางไปทั้งๆ ที่ไม่รู้ว่าสถานที่ใหม่นั้นเป็นอย่างไร?

 

 ภาพที่ 2  ในพระคัมภีร์ปฐมกาล 12:1-9 พระเจ้าบอกอับรามว่าเจ้าจงออกจากเมือง จากญาติพี่น้อง จากบ้านบิดาของเจ้า ไปยังดินแดนที่เราจะบอกให้เจ้ารู้  เราจะให้เจ้าเป็นชนชาติใหญ่ เราจะอวยพรแก่เจ้า จะให้เจ้ามีชื่อเสียงใหญ่โตเลื่องลือไป แล้วเจ้าจะช่วยให้ผู้อื่นได้รับพร เราจะอวยพรแก่คนที่อวยพรเจ้า เราจะสาปคนที่แช่งเจ้า ทุกคนทั่วโลกจะได้รับพรเพราะเจ้า

 

ภาพที่ 3  พระเจ้าทำพันธสัญญากับอับราม 3 ข้อใหญ่ๆ ด้วยกัน คือ 1) เขาจะมีลูกหลานมากมาย จนกลายเป็นชนชาติใหญ่ของพระเจ้า 2) พระเจ้าจะจัดเตรียมสถานที่พิเศษให้กับเขา (เราเรียกว่า แผ่นดินพันธสัญญา) 3) พระเจ้าจะอวยพรเชื้อสายของเขา และทุกคนทั่วโลกจะได้รับพรเพราะเชื้อสายของอับรา-ฮัม (สำหรับครู - นี่เป็นหัวใจสำคัญของพระคัมภีร์ทั้งเล่ม คือแผนการแห่งความรอดของพระเจ้าต่อมนุษย์ เริ่มจากการเรียกอับราฮัม สืบมาจนถึงพระเยซูคริสต์ซึ่งเป็นพงศ์พันธุ์ของกษัตริย์ดาวิด ผู้เป็นเชื้อสายของอับราฮัม พระองค์ทรงถูกตรึงตายบนไม้กางเขน เป็นเหตุให้คนทั่วโลกสามารถได้รับพร และสัญญาที่พระเจ้าให้ไว้กับอับราฮัมคือ ในพระเยซู เราเป็นชนชาติและลูกของพระเจ้า, ในพระเยซู พระเจ้าได้จัดเตรียมที่พิเศษไว้สำหรับเราคือ แผ่นดินสวรรค์, ในพระเยซู เราได้รับความรอด ได้รับพร และอยู่ใต้การปกครองของพระเจ้า)

อับรามได้ไปตามคำพูดของพระเจ้า โลทซึ่งเป็นหลานชายของอับรามก็ไปด้วย เมื่ออับรามออกจากเมืองฮารานนั้น เขามีอายุ 75 ปี  อับรามพาซารายภรรยาของตนกับโลทและทรัพย์สมบัติพร้อมทั้งฝูงสัตว์ออกเดินทางไปยังแผ่นดินคานาอัน พระเจ้าบอกอับรามว่าดินแดนนี้เราจะยกให้ลูกหลานของเจ้า อับรามสร้างแท่นที่นั่น ถวายบูชาแก่พระเจ้า

ภาพที่ 4  เมื่อเวลาล่วงเลยไป อับรามก็เริ่มมีอายุมาก เขาได้อธิษฐานต่อพระเจ้าว่า “ข้าแต่พระเจ้า พระองค์ทรงโปรดประทานอะไรแก่ข้าพระองค์ ด้วยว่าข้าพระองค์ยังไม่มีบุตรเลย แล้วหัวหน้าคนใช้ของข้าจะเป็นผู้รับมรดกของข้าพระองค์หรือ” พระเจ้าตอบเขาว่า “เขาจะไม่ได้เป็นผู้รับมรดกเป็นแน่ แต่จะเป็นลูกชายของเจ้า” พูดแล้วพระองค์ก็พาอับรามออกมากลางแจ้ง และสัญญากับเขาว่าลูกหลานของเขาจะเหมือนดวงดาวบนท้องฟ้า พระเจ้าตรัสว่า “พงศ์พันธุ์ของเจ้าจะมากเช่นนั้น” และพระองค์ทรงเปลี่ยนชื่ออับรามใหม่ว่า “อับราฮัม” เพราะพระเจ้าให้เขาเป็นบิดาของประชาชาติมากมาย และนางซารายให้เป็น “ซาราห์”  อับราฮัมก็เชื่อพระเจ้า ความเชื่อนั้นพระเจ้าทรงนับว่าเป็นความชอบธรรมแก่ท่าน

แผนการแห่งความรอด

เมื่อพระเจ้าเรียกอับราฮัมออกจากบ้านเกิดของเขา และทำพันธสัญญากับเขา พระเจ้ามองเห็นว่าอะไรจะเกิดขึ้นอีกหลายพันปีข้างหน้าแล้ว อับราฮัมในตอนนั้นเป็นเพียงครอบครัวที่ย้ายถิ่นฐาน พระเจ้าต้องการให้เขาเป็นชนชาติของพระองค์ คือประเทศอิสราเอลที่หนูรู้จักทุกวันนี้ โดยมีลูกหลานมากมาย  ให้แผ่นดินที่อยู่อาศัยและชื่อเสียงเลื่องลือไป  และให้ชนชาติอื่นได้รับการอวยพรผ่านทางเชื้อสายของอับราฮัมคือพระเยซูคริสต์ลงมาบนโลกนี้เพื่อตายบนไม้กางเขนเพื่อไถ่ความผิดบาปของมนุษย์ทุกคนที่เชื่อวางใจในพระองค์

พระคัมภีร์เกี่ยวข้องกับหนูอย่างไร

ภาพที่ 5  ชนชาติอื่นทั่วโลกที่ไม่ใช่ชนชาติอิสราเอล  ครูและหนูทุกคนไม่ใช่ชาวอิสราเอลโดยสายเลือด  แต่หนูก็ได้รับพรจากพระเจ้าได้เพราะนี่คือ  แผนการของพระเจ้า  เรามีความเชื่อในพระเจ้าเหมือนกับ อับราฮัม  เราจึงเป็นลูกหลานของอับรามโดยความเชื่อผ่านทางพระเยซูคริสต์  พระเจ้าสัญญากับอับราฮัมอย่างไร  เราก็จะได้รับพรนั้นเหมือนกัน  ไม่เพียงแต่พระเจ้าจะอวยพรหนูเท่านั้น  แต่พระองค์ยังจะอวยพรครอบครัวของหนู  เพื่อนๆ  และคนอื่นๆ ผ่านทางชีวิตของหนูได้ด้วยถ้าหนูเล่าเรื่องของพระเยซูคริสต์ให้พวกเขาได้รู้จัก

รูปภาพประกอบ

ข้อกำหนดในการใช้บทเรียนรูปภาพ  เราต้องการให้บทเรียนและรูปภาพประกอบเป็นพระพรสำหรับทุกท่าน ดังนั้นจึงขอความร่วมมือจากท่านที่จะไม่นำไปใช้ในเชิงพาณิชย์ หรือใช้ในทางที่เบี่ยงเบนไปจากวัตถุประสงค์ของเรา

คำถามอภิปราย

  1. พระเจ้าเรียกให้อับรามทำอะไร และพระเจ้าสัญญาจะพาเขาไปไหน?
  2. ถ้าพระเจ้าเรียกหนูให้ทำอะไรบางอย่างที่ยากมากเกินกำลังของหนู หนูจะทำอย่างไร และทำไม?
  3. หนูเชื่อหรือไม่ว่า พระเจ้าจะรักษาสัญญาที่พระเจ้าให้ไว้กับอับราฮัม? ถ้าหนูเชื่ออย่างนั้น หนูเชื่อไหมว่า พระเจ้าจะรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับหนูด้วย?
  4. ในเรื่องหนูเรียนว่าอับราฮัมเชื่อฟังพระเจ้า คำว่า “เชื่อฟัง” ในชีวิตของหนู หนูควรจะเชื่อฟังใครบ้าง?
  5. หนูช่วยยกตัวอย่างว่าหนูจะเชื่อฟังพระเจ้าได้อย่างไรบ้าง?
  6. อับราฮัมเชื่อฟังพระเจ้า และทำให้ครอบครัวของเขา และลูกหลานของเขาได้รับการอวยพร หนูคิดว่า ครอบครัวของหนูจะได้รับการอวยพรจากพระเจ้าผ่านทางหนูได้ไหม? อย่างไร?

กิจกรรม

ช่างปั้น และก้อนดิน (งานปั้น)

สิ่งที่ต้องเตรียม

  • ดินเหนียวสำหรับปั้น หรือแป้งปั้น (ครูสามารถทำเองได้ คลิกเพื่อดาวโหลดสูตรแป้งปั้น)
  • กระดาษหนังสือพิมพ์ หรือ ผ้าพลาสติก (สำหรับกันโต๊ะเปื้อน)
  • ถุงพลาสติก พร้อมหนังยาง

วิธีทำ

  • แจกก้อนดินให้เด็กแต่ละคน และให้เด็กใช้จินตนาการปั้นก้อนดินนั้นให้เป็นตัวตนที่เด็กคาดฝันไว้ว่าอยากจะเป็นในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นตัวคนในอาชีพ เช่น หมอ ครู หรือทหาร ตำรวจ (ให้เด็กปั้นพร้อมอุปกรณ์ที่ใช้ในอาชีพนั้นๆ) หรือ อาจจะเป็นตัวคนที่มีลักษณะพิเศษ หรือคนที่ชอบทำอะไรบางอย่าง เช่น ทำอาหาร เล่นดนตรี
  • หนุนใจเด็กๆ ให้ใช้ความคิดสร้างสรรค์ และสอนให้เด็กเห็นว่า พระเจ้าเป็นเหมือนช่างปั้น และชีวิตของเด็กๆ เป็นเหมือนก้อนดิน พระเจ้าต้องการใช้ชีวิตของเด็กที่จะถวายเกียรติกับพระองค์ และเป็นพระพร หรือเป็นประโยชน์ต่อคนในครอบครัว และคนรอบข้างของเด็กๆ ไม่ว่าเขาจะเป็นใคร มีอาชีพอะไร ความสวยหรือหล่อที่เห็นภายนอก สำหรับพระเจ้าแล้วไม่สำคัญเท่ากับความงามที่อยู่ข้างใน
  • เปิดโอกาสให้เด็กแบ่งปันผลงานของเขาในชั้นเรียน

เสร็จกิจกรรม อนุญาตให้เด็กนำก้อนดินหรือแป้งปั้นใส่ถุงมัดให้มิดชิดกลับบ้าน เพื่อนำกลับไปเล่นที่บ้านได้ หรืออาจปล่อยไว้ให้ดินแห้ง (ใช้เวลา 1 วัน) งานปั้นก็จะแข็งไว้สำหรับตั้งโชว์ได้

กิจกรรม

“การเชื่อฟัง”

ให้อ่านคำถามแต่ละข้อและหาคำตอบที่ถูกต้อง

กิจกรรม

ทำที่บ้าน