เมื่อกลับบ้านวันนี้ หนูจะได้
- รู้ว่าความบาปคืออะไร
- รู้ว่ามนุษย์ไม่สามารถไถ่ตัวเองหรือช่วยเหลือตัวเองจากความบาปได้ แต่โดยการพึ่งพาพระคุณของพระเจ้า
- สารภาพความผิดบาปของหนูกับพระเจ้า และขอพระเจ้ายกโทษให้หนู
ข้อท่องจำ
“เพราะว่าค่าจ้างของความบาปคือ ความตาย แต่ของประทานจากพระเจ้าคือ ชีวิตนิรันดร์ในพระเยซูคริสต์ องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา” -โรม 6:23
T I P S สำหรับคุณครู
ครูควรจะเน้นให้เด็กเข้าใจว่าเรื่องที่ครูสอนแต่ละสัปดาห์นั้นมาจากพระคัมภีร์ ซึ่งเป็นพระคำของพระเจ้าและเป็นความจริง โดยทุกครั้งที่ครูสอนให้นำพระคัมภีร์ติดตัวครูมาทุกครั้ง(อย่านำแต่คู่มือสอนและรูปภาพประกอบมาเท่านั้น) และก่อนที่จะเล่าเรื่องครูอาจจะถือพระคัมภีร์ไว้ในมือหรืออาจจะอ่านคำพูดบางตอนจากพระคัมภีร์ในขณะที่สอนเพื่อแสดงให้เด็กรู้ว่าเรื่องที่ครูกำลังจะเล่ามาจากพระคัมภีร์-พระคำของพระเจ้าที่เราใช้เป็นมาตรฐานในการดำเนินชีวิตคริสเตียน
เกม“จับผู้ร้าย”
สิ่งที่ต้องเตรียม
- ผ้าเช็ดหน้าผูกตาเด็กแต่ละคนๆ ละผืน ฉิ่งหรือไม้เคาะ 1 ชุด
วิธีเล่น
- เลือกผู้ร้ายขึ้นมา 1 คน โดยการจับไม้สั้นไม้ยาว หรือโอน้อยออก
- ขีดวงกลมบนพื้น ผู้เล่นทุกคนต้องอยู่ในวงกลมที่ขีดไว้
- ใช้ผ้าผูกตาทุกคน ยกเว้นคนที่เป็นผู้ร้าย
- ผู้ร้ายจะให้เสียงโดยการตีฉิ่งหรือเคาะไม้ หรือพูดก็ได้ คนอื่นที่ผูกตาต้องพยายามจับตัวผู้ร้ายโดยการตามเสียงที่ได้ยิน คนที่จับตัวผู้ร้ายได้ ต้องเป็นตัวผู้ร้ายแทน
- ขณะเล่นห้ามผู้ร้ายเดินออกไปนอกเส้น การเล่นไม่ควรตีวงให้กว้างเกินไป เพราะจะทำให้ตามจับตัวผู้ร้ายได้ยากขึ้น
บทนำเรื่อง “ตายเพราะเล่นกับดินปืน”
(โครงเรื่องจากหนังสือชุมนุมเรื่องจริง โดยชัย เรืองศิลป์)
เรื่องอันน่าสยดสยองนี้เกิดขึ้นที่เมืองเพชรบุรี เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2500 ในวันที่กล่าวนี้ เด็กชายวิโรจน์ได้รับบาดเจ็บสาหัสซึ่งเขาเป็นคนทำขึ้นเอง ต่อมาอีกวันหนึ่งเด็กชายคนนี้ก็ถึงแก่ความตาย
วิโรจน์เป็นเด็กซนมาก ความซนทำให้เขาลืมนึกถึงอันตราย และคำตักเตือนของพ่อแม่ เมื่อเขาอายุได้เก้าขวบ เขาเอาฝาขวดน้ำอัดลมวางไว้ในรางรถไฟเพื่อให้รถไฟที่กำลังแล่นอยู่ตรงหน้าเขาทับ รถไฟไม่ได้ทับฝาขวดแต่อย่างเดียว ยังทับเอามือขวาของเขาจนนิ้วขาดไปสามนิ้ว
สี่ปีผ่านมาวิโรจน์ยังเป็นเด็กซนอยู่อย่างเดิม และแถมเป็นเด็กหัวดื้อ ไม่เชื่อฟังคำห้ามปรามของผู้ใหญ่ วิโรจน์ได้ซื้อดินประสิวกับกำมะถันมาตำจนละเอียด แล้วคลุกกับถ่าน ทำเป็นดินปืนบรรจุลงในขวด แล้วนำไปจุดที่รางรถไฟใกล้กับสถานีรถไฟเพชรบุรี มีเด็กๆ ตามไปดูกันหลายคน พอไฟที่ไม้ขีดกระทบดินปืน ก็เกิดเสียงระเบิดสนั่นหวั่นไหว ขวดบรรจุดินปืนแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยกระเด็นไปรอบทิศ และไปฝังตามเนื้อตัวของวิโรจน์ กับเด็กที่ยืนดูใกล้ๆ สี่คน
วิโรจน์ได้รับบาดเจ็บมากกว่าใครๆ จนถึงต้องตัดมือทั้งสองข้างทิ้ง และในวันต่อมาก็ถึงแก่ความตายเนื่องจากทนพิษบาดแผลไม่ไหว ส่วนเด็กอีกสี่คนได้รับบาดเจ็บสาหัส นี่เป็นเครื่องเตือนใจว่า เด็กๆ ไม่ควรไปเล่นกับของที่มีอันตราย และหัวรั้นไม่เชื่อฟังคำเตือนของผู้ใหญ่ ผลเสียที่ได้รับอาจถึงแก่ความตาย และส่งผลร้ายต่อคนใกล้ตัวอีกด้วย
เล่าเรื่องจากพระคัมภีร์
เมื่อพระเจ้าสร้างมนุษย์คนแรกคืออาดัม โดยพระองค์ทรงปั้นมนุษย์ด้วยผงคลีดิน แล้วระบายลมหายใจเข้าทางจมูก มนุษย์จึงมีชีวิตขึ้น พระองค์ทรงให้เขาอาศัยอยู่ในสวนที่พระองค์ทรงสร้างขึ้นเพื่อเขา ในสวนนั้นมีต้นไม้สวยงามน่าดูและพืชพันธุ์ธัญญาหารมากมาย มีแม่น้ำไหลผ่าน และมีสัตว์มากมายอาศัยรวมกันอยู่ในสวนนั้น และพระองค์ทรงเรียกสวนนั้นว่าสวนเอเดน ในสวนนั้นอาดัมได้ตั้งชื่อสัตว์ต่างๆ และพระเจ้าทรงให้เขาครอบครองและดูแลสรรพสิ่งในสวนนั้น แต่ไม่มีใครที่เหมาะสมจะเป็นคู่อุปถัมภ์ของอาดัมเลย วันหนึ่งเมื่ออาดัมหลับสนิท พระเจ้าจึงชักซี่โครงซี่หนึ่งออกจากอาดัม แล้วทำให้เนื้อติดเข้ากันอย่างเดิม และส่วนกระดูกซี่โครงนั้นพระองค์ทรงสร้างให้เป็นหญิงและเรียกนางว่า“เอวา” นางจะเป็นคู่อุปถัมภ์ เป็นผู้ช่วยของอาดัม สถาบันครอบครัวก็เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกโดยมีพระเจ้าเป็นผู้สถาปนาขึ้น
ในสวนเอเดนที่อาดัมและเอวาอาศัยอยู่นั้น มีต้นไม้สองต้นอยู่ที่กลางสวนคือ ต้นไม้แห่งชีวิต และต้นไม้แห่งการรู้ดีรู้ชั่ว พระเจ้าสั่งอาดัมและเอวาว่า “บรรดาผลไม้ทุกอย่างในสวนนี้เจ้ากินได้ทั้งหมด เว้นแต่ต้นไม้ต้นเดียวคือต้นไม้แห่งการรู้ดีรู้ชั่ว ผลของต้นไม้นั้นอย่ากิน เพราะในวันใดที่เจ้าขืนกิน เจ้าจะต้องตายแน่”
ภาพที่ 1 จนกระทั่งวันหนึ่งซาตานที่มาในคราบของงูได้เข้ามาล่อลวงและถามหญิงว่า “จริงหรือที่พระเจ้าตรัสห้ามว่า อย่ากินผลจากต้นไม้ใดๆ ในสวนนี้” เอวาตอบงูว่า “ผลของต้นไม้ต่างๆ ในสวนนี้เรากินได้ เว้นแต่ผลของต้นไม้ที่อยู่กลางสวนนั้น พระเจ้าตรัสห้ามว่า อย่ากินหรือถูกต้องเลย มิฉะนั้นจะตาย” งูนั้นก็พูดล่อลวงให้เอวาไม่ทำตามคำสั่งที่พระเจ้าให้ไว้ว่า “เจ้าจะไม่ตายจริงดอก เพราะพระเจ้ารู้อยู่ว่าเจ้ากินผลไม้นั้นวันใด ตาของเจ้าจะสว่างขึ้นในวันนั้น แล้วเจ้าจะเป็นเหมือนพระเจ้า คือสำนึกในความดีและความชั่ว”
ภาพที่ 2 ในที่สุดเอวาก็ห้ามใจของตัวเองไม่ไหว และอยากจะมีปัญญาอย่างที่งูล่อลวงเขาโดยไม่นึกถึงคำสั่งห้าม และโทษที่พระเจ้าสั่งเขาไว้ เอวาจึงกินผลไม้นั้นแล้วยังส่งไปให้สามีของนางกินด้วย ฝ่ายอาดัมรับผลไม้ไปกินโดยที่ไม่ท้วงติงหรือปรามเอวา ทั้งสองร่วมกันทำความผิดคือการไม่เชื่อฟังพระเจ้า หลังจากนั้นตาของเขาก็สว่างขึ้นและสำนึกว่าตนเองเปลือยกายอยู่ จึงเอาใบมะเดื่อมาเย็บเป็นเครื่องปกปิดร่างกายของตน
ภาพที่ 3 ในเย็นวันนั้นเมื่อพระเจ้าเข้ามาในสวน อาดัมและเอวาได้ยินเสียงของพระเจ้า เขาทั้งสองก็ไปหลบซ่อนตัวอยู่ใต้พุ่มไม้ ด้วยเขาเกิดความรู้สึกผิด เมื่อพระเจ้าเรียกหาเขา เขาก็ตอบพระองค์ว่า “เราได้ยินเสียงของพระองค์ในสวนก็เกรงกลัว เพราะเราเปลือยกายอยู่ เราจึงต้องซ่อนตัวเสีย” พระเจ้าจึงถามอาดัมว่าเขาได้กินผลไม้ที่พระเจ้าสั่งห้ามไว้ใช่ไหม แทนที่อาดัมจะสารภาพความผิดที่เขาได้ทำลงไป เขากลับโยนความผิดให้เอวาและโทษพระเจ้าที่ให้หญิงนั้นแก่เขา โดยกล่าวว่า”หญิงที่พระองค์ให้อยู่กินกับผมนั้นส่งผลไม้นั้นให้ผม ผมจึงรับประทาน” เมื่อพระเจ้าหันไปถามเอวา นางกลับโทษว่าเพราะงูได้ล่อลวงให้นางทำลงไป
ดังนั้นพระเจ้าจึงลงโทษ
- งูให้ถูกสาปแช่งมากกว่าสัตว์ตัวอื่น โดยให้มันเลื้อยด้วยท้องและจะกินผงคลีดินเป็นอาหารตลอดชีวิตของมัน(หมายถึงการถูกดูถูก และมีฐานะที่ต่ำกว่าใคร ไม่ได้มีความหมายถึงสิ่งที่งูจะกิน)และมากกว่านั้นงูกับพงศ์พันธุ์ของหญิงจะเป็นศัตรูกัน เชื้อสายของหญิงนั้นจะทำให้หัวของมันแหลก และงูจะทำให้ส้นเท้าเขาฟกช้ำ (เชื้อสายของหญิงเล็งเห็นถึงพระเยซูคริสต์)
- ผู้หญิงจะมีความยากลำบากและเจ็บปวดในการตั้งท้องและคลอดลูก และผู้ชายจะปกครองตัวเธอ
- ด้วยเหตุที่ผู้ชายเชื่อคำพูดของภรรยาและไม่เชื่อฟังพระเจ้า แผ่นดินจะถูกสาปจะมีต้นไม้และพืชหนามเกิดขึ้น และผู้ชายจะต้องหากินด้วยเหงื่ออาบหน้าจนวันที่เขาตาย และเขาจะต้องกลับไปเป็นดิน (ความตายเป็นผลจากความบาป)
ภาพที่ 4 หลังจากนั้นพระเจ้าได้ทำเสื้อจากหนังสัตว์ให้อาดัมและเอวาสวมปกปิดร่างกายของเขา และพระองค์ทรงไล่ให้อาดัมและเอวาออกไปจากสวนเอเดน และพระเจ้าตั้งพวกทูตสวรรค์และกระบี่เพลิงเฝ้าทางที่จะไปยังต้นไม้แห่งชีวิต เกรงว่ามนุษย์จะไปหยิบผลไม้จากต้นไม้แห่งชีวิตมากินและจะมีอายุยืนชั่วนิรันดร์ (สำหรับครู—การที่อาดัมและเอวาถูกไล่ออกจากสวนเป็นทั้งการลงโทษ และการปกป้องของพระเจ้าด้วย พระเจ้ายังเมตตามนุษย์ที่ไม่ต้องการให้เขาไปกินผลไม้แห่งชีวิตและต้องมีชีวิตที่ตกอยู่ในความบาปนิรันดร์ไม่มีวันตาย)
แผนการแห่งความรอด
มนุษย์เลือกที่จะไม่เชื่อฟังและปฏิเสธพระเจ้า ซาตานล่อลวงให้มนุษย์มีความปรารถนาที่จะเป็นเหมือนกับพระเจ้า มนุษย์จึงตกอยู่ในความบาปและได้รับผลกระทบจากความบาปมากมาย เช่น ความเจ็บปวด ความทุกข์ยากลำบาก ความอาย แต่ที่สำคัญที่สุดคือ มนุษย์ต้องพบกับความตายทั้งฝ่ายร่างกาย คือเขาจะต้องกลับไปเป็นดิน และความตายฝ่ายวิญญาณคือการถูกแยกออกจากพระเจ้า ความสัมพันธ์ที่เคยสนิทสนมกับพระเจ้าก็ต้องถูกตัดขาดลง และมนุษย์ก็ไม่สามารถช่วยตัวเขาเองได้ คือไม่สามารถทำให้ทุกอย่างกลับสู่สภาพเดิมที่ดีได้ มีพระเจ้าองค์เดียวเท่านั้นที่สามารถทำสิ่งนี้ได้ (หากในชั้นเรียนมีเด็กที่ยังไม่รับเชื่อ ครูอาจใช้เวลานี้แบ่งปันพระกิตติคุณของพระเยซู และ**หากมีเด็กต้องการต้อนรับพระเยซูเป็นพระผู้ช่วยให้รอด กรุณาดูคำแนะนำด้านหน้าคู่มือ**)
พระคัมภีร์เกี่ยวข้องกับหนูอย่างไร
ภาพที่ 5 เพราะอาดัมและเอวาทำบาปต่อพระเจ้า ทำให้ความบาปนั้นตกทอดสู่มนุษย์ทุกคนในวันนี้ ความบาปคือการปฏิเสธไม่เชื่อฟังพระเจ้า และทำตามใจตนเอง เช่นการพูด การทำในสิ่งที่พระเจ้าไม่พอพระทัย ค่าจ้างของความบาปคือความตาย แต่มีพระเจ้าองค์เดียวเท่านั้นที่สามารถช่วยให้หนูรอดพ้นจากความบาปผิดได้ เมื่อหนูทำผิด หนูอาจจะรู้สึกผิด รู้สึกอาย หนูสามารถเลือกทำได้สองอย่าง คือ โทษคนโน้น โทษคนนี้ หาข้อแก้ตัวไปต่างๆ นานา หรือ หนูสามารถยอมรับสารภาพความผิดของหนู เพื่อให้พระเจ้าลบล้างความรู้สึกผิดและความอายออกไป เพราะพระเจ้าสัญญาใน 1 ยอห์น 1:9 ว่า ถ้าเราสารภาพความผิดบาปของเรา พระองค์จะทรงลบล้างความผิดนั้นไป (ครูนำเด็กอธิษฐาน)
รูปภาพประกอบ
ข้อกำหนดในการใช้บทเรียนรูปภาพ เราต้องการให้บทเรียนและรูปภาพประกอบเป็นพระพรสำหรับทุกท่าน ดังนั้นจึงขอความร่วมมือจากท่านที่จะไม่นำไปใช้ในเชิงพาณิชย์ หรือใช้ในทางที่เบี่ยงเบนไปจากวัตถุประสงค์ของเรา
คำถามอภิปราย
- ในสวนเอเดนที่อาดัมและเอวาอาศัยอยู่มีต้นไม้พิเศษอยู่สองต้นคือต้นอะไรบ้าง?
- พระเจ้าสั่งอาดัมและเอวาเกี่ยวกับต้นไม้นั้นอย่างไร?
- ใครมาล่อลวงเอวา และมันล่อลวงเอวาให้ทำอะไร?
- มนุษย์เลือกที่จะเชื่อฟังพระเจ้า หรือเชื่อคำล่อลวงของงู?
- เมื่อเอวากินผลไม้นั้นแล้ว เธอทำอะไรต่อไป?
- ทำไมเขาจึงเอาใบไม้มาเย็บเป็นเครื่องปกปิดร่างกายของเขา?
- ทำไมเมื่อพระเจ้ามาหาเขา เขาจึงต้องไปหลบซ่อนพระเจ้า? (เพราะเขาอายและรู้สึกผิด แต่เขาไม่ยอมสารภาพความผิดของเขา)
- อะไรคือสิ่งที่อาดัม และเอวาทำเมื่อพระเจ้าถามว่าเขาได้กินผลไม้ที่พระเจ้าสั่งห้ามไว้ใช่ไหม? หนูควรทำตามตัวอย่างนี้หรือไม่ อย่างไร?
- พระเจ้าทำอะไรให้ปกปิดร่างกายของอาดัมและเอวา?
- ผลของการไม่เชื่อฟังของอาดัมและเอวา ทำให้เกิดอะไรขึ้นกับมนุษย์ในทุกวันนี้?
กิจกรรม
ขวดแห่งความบาป (การทดลอง)
สิ่งที่ต้องเตรียม
- ขวดน้ำพลาสติกหรือขวดแก้วใส 1 ขวดต่อกลุ่ม (กลุ่มละ 4-5 คน)
- เหยือกน้ำสะอาด
- ถ้วยน้ำชาพลาสติก หรือแก้วน้ำของเล่นเล็กๆ ก็ได้
- สีผสมอาหาร สีแดง น้ำเงิน เขียว
- น้ำยาซักผ้าขาว(ไฮเตอร์) ให้ใส่ไว้ในภาชนะอื่นที่เด็กไม่รู้ว่าเป็นน้ำยาซักผ้าขาว
วิธีทำ
แบ่งเด็กให้นั่งกันเป็นกลุ่มๆ ละ 4-5 คน แจกขวดน้ำพลาสติกที่มีน้ำสะอาดอยู่ในขวดประมาณครึ่งขวด บอกให้นักเรียนสมมุติว่าขวดน้ำนี้เปรียบเหมือนชีวิตของเราทุกคน
- เมื่ออาดัมและเอวาทำบาป ไม่เชื่อฟังพระเจ้า ให้หยดสีน้ำเงินลงในขวดน้ำนั้น 1 หยด (ครูอาจจะเดินเวียนไปตามกลุ่มแล้วเป็นคนหยดสีลงในขวดให้เด็ก หรือหากเด็กโตพอ ครูอาจจะให้เด็กในกลุ่มเป็นคนทำเองก็จะดี)
- วันที่หนูไม่เชื่อฟังคุณพ่อ คุณแม่ ให้หยดสีเขียวลงในขวดน้ำ 1 หยด
- ที่โรงเรียนหนูอิจฉาเพื่อนที่เขามีกล่องดินสอที่สวยกว่า หนูก็ไปทำกล่องดินสอของเขาแตก ให้หยดสีแดงลงในขวดน้ำ 1 หยด
- ให้เด็กยกตัวอย่างความผิดบาปมาอีกหนึ่งอย่าง แล้วหยดสีลงไปในขวดอีก 1 หยด (สีที่หยดในขวดทั้งหมดอย่าให้เกิน 4 หยด)
ในเวลานี้ น้ำในขวดจะเป็นสีสกปรก เปรียบเทียบให้เห็นว่าชีวิตของเด็กก็มีลักษณะข้างในคล้ายกับขวดน้ำนี้ หนูคิดไหมว่าหากหนูพยายามทำความดีเพื่อจะลบล้างความไม่ดี จะเป็นอย่างไร
- เมื่อหนูพยายามช่วยเหลือครูในห้องเรียน หนูได้ทำดีให้เทน้ำใสสะอาดลงในขวดน้ำ 1 ถ้วยน้ำชา
- เมื่อหนูตั้งใจเชื่อฟังคุณพ่อ คุณแม่ ให้เติมน้ำสะอาดในขวดอีก 1 ถ้วยน้ำชา
- เมื่อหนูตั้งใจเรียน ขยัน และเป็นเด็กดี ให้เติมน้ำสะอาดลงไปอีก (อย่าให้เต็มขวด) แล้วปิดฝา เขย่าแล้วดูซิว่าน้ำในขวดใสสะอาดเหมือเดิมหรือไม่
น้ำในขวดอาจจะใสขึ้นเพียงนิดหน่อยแต่จะไม่สะอาดเหมือนเดิม เช่นเดียวกับชีวิตของเด็กที่มีความผิดบาปติดตัวมาตั้งแต่อาดัมและเอวาทำบาป ไม่ว่าหนูจะพยายามทำดีมากแค่ไหนก็ไม่สามารถทำให้ชีวิตของหนูใสสะอาดได้ จะให้กลับไปเหมือนตั้งแต่ต้นก็ไม่ได้
- ครูเดินเติมน้ำยาซักผ้าขาวลงในแต่ละขวดประมาณ 1/4 ถ้วยตวง แล้วรอประมาณ 4 นาทีน้ำที่สกปรกก็จะกลับมาใสดังเดิม เปรียบเหมือนความจริงที่มีพระเจ้าองค์เดียวเท่านั้นที่สามารถลบล้างความผิดบาปของหนูได้