บทเรียน : โบอาส ญาติ ผู้มีสิทธิ์ไถ่ถอน

เมื่อกลับบ้านวันนี้หนูจะได้

  • เรียนรู้ว่าพระเจ้าส่งพระเยซูมาเป็นผู้มีอำนาจไถ่ถอนมนุษย์ทุกคนจากความบาป
  • ปรารถนาที่จะให้พระเยซูเป็นผู้ไถ่ชีวิตของเขาจากความบาปและความทุกข์ยากลำบาก
  • ตัดสินใจต้อนรับเอาพระเยซูมาเป็นพระผู้ไถ่ของหนู

ข้อท่องจำ

“เมื่อเขาร้องทูลเรา เราจะตอบเขา เราจะอยู่กับเขาในยามลำบาก เราจะช่วยเขาให้พ้นและให้เกียรติเขา”  -สดุดี 91:15

T I P S สำหรับคุณครู

ครูเป็นอุปกรณ์ เป็นสื่อการสอน และเป็นตัวอย่างในการสอนที่ดีที่สุด ดังนั้นคุณครูทุกคนควรท่องข้อท่องจำที่จะสอนเด็กให้ได้อย่างคล่องแคล่ว ก่อนนำข้อท่องจำนั้นไปสอนเด็กในชั้นเรียน หนุนใจให้ครูทุกท่านลองใช้ข้อท่องจำในแต่ละสัปดาห์ในการใคร่ครวญ เฝ้าเดี่ยว หรือแม้แต่ใช้ในการท่องข้อพระคัมภีร์ส่วนตัวเป็นประจำทุกวัน แค่นี้คุณครูเองก็จะได้พัฒนาและสะสมพระคำของพระเจ้าไว้ในใจเป็นการส่วนตัวอีกทางหนึ่ง

 

เกม “เก็บเกี่ยว”

สิ่งที่ต้องเตรียม

  • เหรียญสลึง (เตรียมให้เหมาะสมกับจำนวนเด็ก 5-10 เหรียญต่อคน)
  • ผ้าปิดตาจำนวนเท่ากับเด็กครึ่งหนึ่งของชั้นเรียน

วิธีเล่น

  • ให้เด็กจับกันเป็นคู่ แต่ละคู่จะได้รับผ้าปิดตาคู่ละหนึ่งผืน
  • ให้เด็กแต่ละคู่เลือกว่าใครจะเป็นคนบอกทางและใครจะเป็นคนเก็บเกี่ยว (ปิดตา)
  • ให้เด็กที่เป็นคนบอกทางยืนล้อมเป็นวงกลม และให้เด็กที่ปิดตาอยู่ด้านในวงกลม หลังจากนั้นให้ครูนำเหรียญสลึงโปรยให้ทั่ววงกลม อาจใช้เหรียญจำนวน 5 หรือ 10 เหรียญต่อเด็กหนึ่งคน
  • เมื่อครูให้สัญญาณคนเก็บเกี่ยวคุกเข่าลงกับพื้น และให้คนบอกทางพยายามบอกทางให้คู่ของตนเก็บเหรียญให้ได้มากที่สุด โดยไม่ให้ไปชนกับคนเก็บเกี่ยวคนอื่นๆ และคนบอกทางไม่สามารถแตะต้องถูกตัวคนเก็บเกี่ยวได้
  • เมื่อครูให้สัญญาณหมดเวลา คู่ที่เก็บเกี่ยวเหรียญได้มากที่สุดเป็นผู้ชนะ

บทนำเรื่อง "แก่นข้าว”

หลักศิลาจารึกในสมัยพ่อขุนรามคำแหงมหาราชได้บันทึกเรื่องราวเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในอาณาจักรสุโขทัย นักวิชาการค้นพบว่ามีการบันทึกเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ ภาษา สังคมและวัฒนธรรมความเป็นอยู่ของคนในสมัยนั้น

การบันทึกเรื่องราวต่างๆ ส่วนหนึ่งได้สะท้อนให้เห็นถึงลักษณะครอบครัวไทยโบราณ ค่านิยมและคุณธรรมที่ควรยกย่องอย่างหนึ่งที่ถูกเอ่ยถึงตั้งแต่สมัยสุโขทัยคือ ความกตัญญูกตเวทีต่อผู้เป็นพ่อแม่ และการให้ความเคารพต่อผู้เป็นพี่หรือผู้ที่มีอาวุโสกว่า ทำให้เด็กๆ เห็นว่า ความกตัญญูกตเวทีนี้เกือบจะเรียกได้ว่าเป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคนทีเดียว ในทุกๆ ปี สภาสังคมสงเคราะห์ประเทศไทยจะมีการคัดสรรและมอบรางวัลให้แก่ “ลูกที่มีความกตัญญูอย่างสูงต่อแม่” หรือ ลูกดีเด่น

ภาษิตจีนโบราณกล่าวไว้ว่า “กตัญญูรู้คุณ คือ คุณธรรมอันดับแรก” ส่วนภาษิตไทยที่เราเคยได้ยินกันเป็นประจำ คือ “ความกตัญญูกตเวที เป็นเครื่องหมายของคนดี” ภาษิตทั้งสองนี้ไม่ห่างไกลจากพระคำของพระเจ้าที่สอนให้รู้จักกตัญญูต่อผู้มีพระคุณผ่านทางชีวิตของนางรูธที่ดูแลแม่ของสามีอย่างไม่หวั่นต่อความแร้นแค้นยากลำบาก นางยังยอมเชื่อฟังนาโอมีโดยไม่เห็นแก่ความสุขของตัวเองเลย

เล่าเรื่องจากพระคัมภีร์ (นางรูธ 3:1-23)

รูธอาศัยอยู่กับนาโอมีแม่ผัวในเมืองเบธเลเฮ็ม และเพราะความมีน้ำใจของโบอาส นางจึงสามารถช่วยดูแล นาโอมีโดยการเข้าไปเก็บรวงข้าวที่ตกในทุ่งนาของโบอาส ตลอดฤดูกาลเก็บเกี่ยว นาโอมีเห็นว่าโบอาสเป็นชายที่มีความเมตตาและยิ่งกว่านั้นยังเป็นญาติสนิทกับครอบครัวฝั่งสามีของนาง นางจึงคิดอยากจะฝากชีวิตของลูกสะใภ้ให้เป็นฝั่งเป็นฝา

ภาพที่ 1  นาโอมีจึงพูดกับรูธว่า “ลูกเอ๋ย แม่ควรจะหาคนที่เจ้าจะพึ่งพาได้ เพื่อชีวิตของเจ้าจะได้สบาย โบอาสที่เจ้าไปกับพวกสาวใช้ของเขา เป็นญาติสนิทของเรา คืนนี้เขาจะไปฟัดข้าวบาร์เลย์ร่วมกันที่ลานนวดข้าว ให้เจ้าอาบน้ำ ทาน้ำมันหอม ใส่ชุดสวยของเจ้า และลงไปที่ลานนวดข้าว แต่อย่าให้โบอาสเห็นเจ้าจนเขาได้กินอาหารและดื่มเสร็จแล้ว แล้วให้สังเกตดูว่าเขาเอนกายนอนที่ไหน ก็ให้เจ้าไปเปิดผ้าคลุมเท้าขึ้นและจงนอนที่นั่น (เพื่อเป็นการขอให้โบอาสเป็นผู้คุ้มครองนาง) ต่อจากนั้นเขาจะบอกลูกเองว่าจะต้องทำอย่างไรต่อไป”

นางรูธตอบว่า “ฉันจะกระทำตามที่แม่บอกทุกอย่าง”

ภาพที่ 2  แล้วนางรูธจึงลงไปยังลานนวดข้าว และกระทำตามที่แม่ผัวบอกทุกอย่าง เมื่อโบอาสกินอาหารและดื่มจนพอใจแล้ว เขาก็ไปนอนอยู่ที่ปลายกองข้าว พวกเขาทำเช่นนี้ในช่วงฤดูเก็บเกี่ยว เพื่อเฝ้าข้าวไม่ให้ถูกขโมย รูธก็ย่องเข้าไปอย่างเงียบสนิทและเปิดผ้าคลุมเท้าและนอนลงที่ปลายเท้าของโบอาส

ในคืนนั้นเองโบอาสพลิกตัวตกใจ เมื่อรู้สึกว่ามีคนมานอนอยู่ที่ปลายเท้าของเขา เขาจึงเอ่ยถามขึ้นว่า “เจ้าเป็นใครกัน”

ภาพที่ 3 รูธจึงตอบว่า “ฉันคือรูธคนรับใช้ของท่าน ขอท่านกางชายเสื้อของท่านห่มคนรับใช้ของท่านคนนี้ด้วย เพราะท่านคือญาติสนิทที่มีสิทธิ์ไถ่ตัวข้า”  โบอาสจึงตอบนางว่า “ลูกเอ๋ย ขอพระเจ้าทรงอวยพรแก่เจ้าเถิด ความดีที่เจ้าทำในครั้งนี้ก็ยิ่งใหญ่กว่าครั้งก่อน ด้วยว่าเจ้ามิได้ไปหาคนหนุ่ม ไม่ว่าจนหรือมั่งมี” (ความดีครั้งแรกน่าจะหมายถึงการที่รูธตัดสินใจเสียสละเดินทางติดตามนาโอมีมายังแผ่นดินอิสราเอล และความดีที่ยิ่งใหญ่กว่าที่โบอาสกล่าวถึงคือการที่นางไม่คิดที่จะไปหาสามีใหม่ มีครอบครัวใหม่ แต่เลือกที่จะอยู่และดูแลนางนาโอมีโดยการมาขอพึ่งพิงโบอาสให้ช่วยกอบกู้เชื้อสายของครอบครัวของนาโอมีแทนการตัดช่องน้อยแต่พอตัว) ญาติผู้มีสิทธิ์ไถ่ถอนคือญาติที่มีสิทธิ์ซื้อที่ดินของครอบครัวเพื่อเป็นการไถ่ถอนกลับคืนให้เป็นสมบัติของตระกูลเดิม และยินดีรับผิดชอบเลี้ยงดูภรรยาม่ายของครอบครัวมาเป็นภรรยาของตน เพื่อสืบเชื้อสายของต้นตระกูลนั้นต่อไป

โบอาสยังกล่าวต่อไปอีกว่า “ลูกเอ๋ย อย่ากลัวเลย ข้าจะทำสิ่งที่เจ้าขอร้อง บรรดาผู้หลักผู้ใหญ่ในเมืองนี้ต่างรู้ว่าเจ้าเป็นผู้หญิงที่ดีกตัญญูรู้คุณ และถูกแล้วที่ข้าเป็นญาติสนิท แต่ยังมีคนหนึ่งที่เป็นญาติสนิทกว่าและมีสิทธิ์ไถ่ถอนตัวเจ้าก่อนข้า ดังนั้นให้เจ้าค้างอยู่ที่นี่ เมื่อถึงรุ่งเช้าหากญาติสนิทกว่าคนนั้นต้องการที่จะไถ่ตัวเจ้าก็ดี เขาจะได้ช่วยเจ้า แต่ถ้าเขาไม่เต็มใจไถ่ตัวเจ้า พระเจ้ามีพระชนม์แน่ฉันใด ข้าก็จะทำหน้าที่ญาติสนิทคนถัดมาและไถ่ตัวเจ้าแน่ฉันนั้น เจ้าจงนอนลงเถิดจนกว่าจะรุ่งเช้า”

นางรูธจึงนอนที่อยู่ปลายเท้าของโบอาสและลุกขึ้นตอนรุ่งสางก่อนที่คนจะเห็นหน้ากันได้ชัด โบอาสก็ให้นางคลี่ผ้าคลุมของนางออกแล้วเขาก็ตวงข้าวบาร์เลย์ให้นางแบกกลับไปหกทะนาน (ประมาณ 20 กก.) แล้วโบอาสก็เข้าไปในเมือง

ภาพที่ 4 เมื่อนางรูธเดินทางกลับมาถึงบ้านในรุ่งเช้า นาโอมีจึงถามนางว่า “ลูกเอ๋ย เป็นอย่างไรบ้าง” รูธก็เล่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้นให้แก่นาโอมีฟังและยังเล่าต่อไปอีกว่า “ท่านให้ข้าวบาร์เลย์หกทะนานนี้แก่ลูก และยังเอ่ยว่า เจ้าอย่ากลับไปหาแม่ผัวมือเปล่าเลย”

นาโอมีจึงกล่าวว่า “ลูกเอ๋ย ให้คอยอยู่นี่จนกว่าจะรู้ว่าเรื่องจะจบลงอย่างไร เพราะชายคนนี้จะไม่หยุดจนกว่าเขาจะได้จัดการเรื่องนี้ให้เสร็จเรียบร้อยในวันนี้”

แผนการแห่งความรอด

ญาติสนิทผู้มีสิทธิ์ไถ่ถอนเป็นหนทางเดียวที่จะกอบกู้ครอบครัวของนาโอมีและรูธได้ หากปราศจากญาติผู้มีสิทธิ์ไถ่ถอน ครอบครัวของนาโอมีและนางรูธก็ไร้ซึ่งความหวัง เช่นเดียวกับองค์พระเยซูคริสต์ พระบุตรของพระเจ้า ไร้ตำหนิปราศจากบาป พระองค์เป็นเพียงหนทางเดียวและเป็นเพียงผู้เดียวที่เหมาะสมมีสิทธิ์ไถ่ถอนมนุษย์ทุกคน รวมทั้งครูและหนูให้รอดพ้นจากการลงโทษเพราะบาปของเรา และหากปราศจากพระเยซูแล้ว ชีวิตของเราก็คงหมดหวังและไม่มีวันที่จะรอดพ้นจากเวรกรรมของโลกนี้ พระองค์ยอมสละชีวิตของพระองค์ ตายบนไม้กางเขนเพื่อรับโทษแทนครูและหนู และในวันที่สามทรงเป็นขึ้นจากความตาย มีชัยชนะเหนือความตาย และได้ไถ่ทุกคนที่เชื่อในพระองค์ออกจากความบาปและความตายอย่างสมบูรณ์ ทุกคนที่เชื่อในพระองค์จะได้รับการไถ่ถอนจากบาปและรับชีวิตนิรันดร์

พระคัมภีร์เกี่ยวข้องกับหนูอย่างไร

ภาพที่ 5  นาโอมีไม่รีรอเมื่อเห็นหนทางรอดที่จะช่วยนางรูธให้มีชีวิตที่ดี นางรูธเองก็ไม่รีรอที่จะทำตามที่แม่สามีสั่งเพื่อต้องการจะช่วยกอบกู้ครอบครัวของนาโอมี โดยการไปพึ่งพาโบอาส ญาติสนิทผู้มีสิทธิ์ไถ่ถอนพวกเขา เช่นเดียวกันเมื่อหนูรู้แล้วว่า หนูเป็นคนบาปไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองให้หลุดพ้นจากความทุกข์ยากลำบากที่มาพร้อมกับความบาปได้ วิธีเดียวที่จะทำให้หนูรอดพ้นได้คือการเข้าไปพึ่งพาพระเยซู เชื่อว่าพระองค์เป็นผู้มาช่วยไถ่หนูให้รอดพ้นจากความบาป และพระองค์สัญญากับคนที่เชื่อพระอง์ทุกคนว่า “เมื่อเขาร้องขอความช่วยเหลือจากเรา เราจะตอบเขา  เราอยู่กับเขาในยามที่เขาทุกข์ยาก เราช่วยให้เขาพ้นภัยและทำให้เขามีเกียรติ” (สดุดี 91:15 พระคัมภีร์ฉบับอ่านเข้าใจง่าย)

รูปภาพประกอบ

ข้อกำหนดในการใช้บทเรียนรูปภาพ  เราต้องการให้บทเรียนและรูปภาพประกอบเป็นพระพรสำหรับทุกท่าน ดังนั้นจึงขอความร่วมมือจากท่านที่จะไม่นำไปใช้ในเชิงพาณิชย์ หรือใช้ในทางที่เบี่ยงเบนไปจากวัตถุประสงค์ของเรา

คำถามอภิปราย

  1. หนูคิดว่าทำไมนาโอมีจึงวางแผนให้รูธเข้าไปขอความช่วยเหลือจากโบอาส?
  2. หนูคิดว่าทำไมรูธจึงยอมทำตามที่นาโอมีบอกทุกประการโดยไม่ท้วงติง?
  3. นาโอมีบอกให้นางรูธไปทำอะไรที่ลานนวดข้าว?
  4. โบอาสแสดงท่าทีตอบโต้อย่างไรเมื่อพบรูธนอนอยู่ที่ปลายเท้าของเขา?
  5. โบอาสสามารถช่วยไถ่ถอนครอบครัวของนาโอมีได้ทันทีหรือไม่ อย่างไร?
  6. ใครเป็นผู้มีสิทธิ์ไถ่มนุษย์ทุกคนให้พ้นจากโทษของบาป และได้รับชีวิตนิรันดร์?
  7. บทเรียนพระคัมภีร์ตอนนี้สอนใจหนูอย่างไรบ้าง?

กิจกรรม

ตามหาผู้ไถ่

น้องๆ มาช่วยนางรูธตามหาโบอาส ผู้มีสิทธิ์ไถ่ถอน และช่วยชีวิตของนางรูธกัน

กิจกรรม

พระเจ้าเปลี่ยนจากร้ายเป็นดี

ให้หนูเขียนคำขอบคุณพระเจ้า เล่าเรื่องราวที่พระเจ้าเปลี่ยนเหตุการณ์แย่ๆ ที่เกิดขึ้นให้กลายเป็นดีได้อย่างอัศจรรย์ หรือเหตุการณ์เมื่อหนูมีปัญหายากลำบากแล้วพระเจ้าช่วยหนูให้พ้นจากปัญหานั้นมาได้

 

กิจกรรม

ทำที่บ้าน