เมื่อกลับบ้านวันนี้หนูจะได้
- เรียนรู้ว่าเมื่อพระเยซูเผชิญการทดลองจากมารซาตาน พระองค์เอาชนะการทดลองได้อย่างไร
- รู้สึกมั่นใจว่าเมื่อหนูมีพระเจ้า หนูจะสามารถชนะการทดลองและผ่านอุปสรรคต่างๆ ในชีวิตได้
- วางใจและพึ่งพาให้พระเจ้าช่วยหนูเอาชนะการทดลองและอุปสรรค์ต่างๆ
ข้อท่องจำ
“เพราะฉะนั้น พวกท่านจงนอบน้อมต่อพระเจ้า จงต่อสู้กับมาร แล้วมันจะหนีท่านไป”
- ยากอบ 4:7
T I P S สำหรับคุณครู
“คนส่วนใหญ่มักไม่สนใจว่าคุณมีความรู้มากเท่าไหร่ จนกว่าเขาจะรู้ว่าคุณสนใจพวกเขามากแค่ไหน” ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา โรสเวลท์เป็นผู้กล่าวคำพูดนี้ไว้เป็นคำคมสะท้อนความจริง ให้คุณครูทุกคนเตือนใจตัวเองว่า ความสัมพันธ์ที่ดีกับเด็กในชั้นเรียนนำผลดีมากมายหลายประการ ดังนั้นให้เราอย่ามองข้ามการสร้างความสัมพันธ์กับเด็ก การเอาใจใส่สนใจความเป็นไปในชีวิตของเด็กแต่ละคน ตั้งใจเป็นผู้ฟังที่ดีเมื่อเด็กอยากจะเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นระหว่างสัปดาห์ เมื่อคุณครูตั้งใจทำเช่นนี้แล้วจะพบความจริงมหัศจรรย์ว่า เวลาคุณครูเริ่มเป็นฝ่ายพูดและสอน เด็กๆ ก็จะตั้งใจฟังครู และกฎกติกาที่ว่าทำยาก ก็จะเป็นเรื่องง่ายขึ้นมากเมื่อเด็กรู้ว่าครูเอาใจใส่และสนใจชีวิตของพวกเขา
เกม “เป่ากบ”
สิ่งที่ต้องเตรียม
- หนังยางวงสำหรับเด็กคนละ 2 เส้น
วิธีเล่น
- กำหนดเส้นเริ่มต้นและจุดหมายปลายทาง โดยให้ห่างกันอย่างน้อย 1 เมตร ขึ้นอยู่กับอายุของเด็ก
- ให้เด็กนั่งที่เส้นเริ่มต้นเป็นหน้ากระดาน โดยมีระยะห่างกัน 1 ช่วงแขนของแต่ละคน เด็กแต่ละคนจะได้รับหนังยางคนละ 2 เส้น
- ให้เวลาเด็กนึกถึงนิสัยหรือพฤติกรรมของตัวเองที่เด็กรู้ว่าไม่ดีและอยากเปลี่ยนแปลง เมื่อเด็กทุกคนคิดออกแล้วให้เด็กแต่ละคนแบ่งปันให้เพื่อนๆ ฟัง
- เมื่อเด็กคนนั้นแบ่งปันแล้ว ให้เด็กเป่าหนังยางให้ไปที่จุดหมายปลายทาง เพื่อข้ามเส้นที่กำหนดได้ โดยที่เพื่อนๆ คนอื่นสามารถช่วยเชียร์ (อาจจะทำพร้อมกัน 3-4 คน หรือทีละคน ขึ้นอยู่กับจำนวนเด็กและเวลา)
- เมื่อเด็กสามารถไปถึงจุดหมายปลายทาง ครูให้กำลังใจเด็กว่าเด็กจะสามารถละทิ้งนิสัยหรือพฤติกรรมที่ไม่ดีได้ หากเด็กมีความตั้งใจ
บทนำเรื่อง “ชีวิตของน้ำพุ”
น้ำพุเป็นลูกชายของนักเขียนและศิลปินแห่งชาติชื่อดัง “สุวรรณี สุคนธา” พ่อแม่ของเขาแยกทางกัน น้ำพุและพี่สาวน้องสาวของเขา 4 คนมาอยู่กับแม่ทั้งหมด โดยที่แม่ของเขาเป็นผู้เลี้ยงดูลูกแต่เพียงผู้เดียว แม่ของน้ำพุเป็นนักเขียนที่มีชื่อเสียง เธอใช้เวลาในการเขียนหนังสือเพื่อหาเลี้ยงครอบครัว ทำให้เวลาที่เธอมอบให้ลูกย่อมน้อยลงไป น้ำพุไม่ได้รับความอบอุ่นจากพ่อแม่ พี่น้องของเขาก็มีแต่ผู้หญิง เขาจึงรู้สึกว่าไม่มีใครเข้าใจเขาสักเท่าใดนัก
เมื่อเข้าช่วงวัยรุ่นน้ำพุเลือกเรียนต่อที่โรงเรียนช่างศิลป์ ที่นี่ทำให้เขาพบกับเพื่อนใหม่ และเริ่มเที่ยวเตร่ตามประสาวัยรุ่น น้ำพุเริ่มสูบบุหรี่ เพราะ “ความอยากลอง” ของตนเอง และก็ได้เริ่มลองสิ่งเสพติดอื่นๆ จากกัญชาแล้วจึงค่อยไปสูบยาเสพติดที่ร้ายแรงขึ้นอย่างเฮโรอีน
ครอบครัวของน้ำพุไม่เคยรู้มาก่อน จนกระทั่งน้ำพุรู้ตัวเองว่าติดยา และสารภาพเรื่องทั้งหมดกับแม่และขอเงินแม่ เพื่อเดินทางไปที่ถ้ำกระบอก น้ำพุไปบำบัดที่ถ้ำกระบอกกับเพื่อนอยู่นาน เมื่อกลับมาเขาก็ดูดีขึ้นทั้งกายและใจ ครอบครัวของน้ำพุก็หวังว่าเขาจะกลับมาเรียนได้ตามปกติ แต่ในที่สุดเขาไม่สามารถเอาชนะการทดลองได้ เขาแอบกลับไปเสพยาอีก
เช้าวันหนึ่ง แม่ของน้ำพุได้เห็นน้ำพุนอนถอดเสื้อหมดสติอยู่ที่กลางพื้นห้องนอน น้ำพุได้จากครอบครัวของเขาไปตลอดกาลในวัยเพียง 18 ปีเท่านั้น แพทย์ชันสูตรพบว่าเขาหัวใจวายเฉียบพลัน ซึ่งน่าจะเกิดจากการเสพเฮโรอีนเกินขนาด
ในชีวิตของหนูเคยมีการทดลองที่ยากมากๆ ไหม? หนูรู้ไหมว่าพระเยซูผู้เป็นพระบุตรของพระเจ้า พระองค์ก็ไม่ถูกยกเว้น พระองค์ถูกทดลองเหมือนกับมนุษย์ปุถุชนเช่นเดียวกับครูและหนู วันนี้เราจะมาดูกันว่าพระเยซูเอาชนะการทดลองยากๆ ได้อย่างไร
แหล่งที่มา: วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี “วงศ์เมือง นันทขว้าง” th.wikipedia.org/wiki/วงศ์เมือง_นันทขว้าง สืบค้นเมื่อวันที่ 7 เมษายน 2564
เล่าเรื่องจากพระคัมภีร์ (มัทธิว 3:13-17, 4:1-22, ลูกา 4:1-13)
ในเวลานั้นพระเจ้าจัดเตรียมยอห์นให้เป็นผู้เตรียมทาง เตรียมจิตใจของผู้คนในการเสด็จมาของพระเยซูบนโลกมนุษย์ ยอห์นเป็นผู้ให้บัพติศมาแก่บรรดาคนยิวทั้งหลาย เขาประกาศในถิ่นทุรกันดารแคว้นยูเดียว่า “จงกลับใจใหม่ เพราะว่าแผ่นดินสวรรค์มาใกล้แล้ว” ชาวเมืองเยรูซาเล็ม และคนทั่วแคว้นยูเดีย และคนทั่วลุ่มแม่น้ำจอร์แดนก็ออกไปหายอห์น เพื่อสารภาพบาปของพวกเขา และรับบัพติศมาในแม่น้ำจอร์แดน
รูปภาพที่ 1 แล้วพระเยซูก็เสด็จจากแคว้นกาลิลี มาหายอห์นที่แม่น้ำจอร์แดนเพื่อรับบัพติศมา แต่ยอห์นทูลห้ามพระองค์ว่า “ข้าพระองค์ต้องการจะรับบัพติศมาจากพระองค์ ควรหรือที่พระองค์จะเสด็จมาหาข้าพระองค์?” แต่พระเยซูตรัสตอบยอห์นว่า “บัดนี้ จงยอมเถิด เพราะสมควรที่พวกเราจะทำความชอบธรรมให้ครบถ้วนทุกประการ” การรับบัพติศมาของพระเยซูนั้นก็เพื่อเป็นการประกาศว่าพระองค์จะเริ่มทำพันธกิจของพระเจ้าแล้ว เมื่อพระเยซูทรงรับบัพติศมาแล้วก็เสด็จขึ้นจากน้ำ ทันใดนั้นฟ้าก็แหวกออก และพระองค์ทรงเห็นพระวิญญาณของพระเจ้าเสด็จลงมาดุจนกพิราบสถิตบนพระองค์ และนี่แน่ะ มีพระสุรเสียงตรัสจากฟ้าสวรรค์ว่า “ท่านผู้นี้เป็นบุตรที่รักของเรา เราชอบใจท่านมาก” (เป็นภาพแสดงให้เห็นถึงพระเจ้าในสามพระภาคหรือตรีเอกานุภาพ คือพระบิดา พระบุตร และพระวิญญาณบริสุทธิ์อยู่ร่วมกันเป็นหนึ่ง)
รูปภาพที่ 2 แล้วพระวิญญาณก็ทรงนำพระเยซูเข้าไปในถิ่นทุรกันดาร พระองค์อดอาหารสี่สิบวันสี่สิบคืน พระองค์ก็ทรงหิว มารได้เข้ามาทดลองพระเยซู แล้วจึงพูดกับพระองค์ “ถ้าท่านเป็นพระบุตรของพระเจ้า จงสั่งก้อนหินเหล่านี้ให้กลายเป็นขนมปังสิ” พระองค์ตรัสตอบว่า “มีพระคัมภีร์เขียนไว้ว่า ‘มนุษย์จะดำรงชีวิตด้วยอาหารเพียงอย่างเดียวไม่ได้ แต่ต้องดำรงชีวิตด้วยพระวจนะทุกคำซึ่งออกมาจากพระโอษฐ์ของพระเจ้า’”พระเยซูไม่ยอมให้มารมาล่อลวงพระองค์ แต่กลับบอกมารให้รู้ว่า พระองค์สามารถอยู่รอดได้โดยการเชื่อฟังพระเจ้า เมื่อมารล่อลวงพระเยซูไม่สำเร็จ
รูปภาพที่ 3 มารก็นำพระเยซูไปยังนครบริสุทธิ์คือกรุงเยรูซาเล็ม และให้พระองค์ประทับที่ยอดหลังคาพระวิหาร แล้วท้าทายพระองค์ว่า “ถ้าท่านเป็นพระบุตรของพระเจ้า จงกระโดดลงไป เพราะพระคัมภีร์มีเขียนไว้ว่า ‘พระเจ้าจะรับสั่งเรื่องท่านต่อบรรดาทูตสวรรค์ของพระองค์ และทูตสวรรค์จะเอามือประคองชูท่านไว้ ไม่ให้เท้าของท่านกระทบหิน’ ” พระเยซูจึงตรัสตอบมารว่า “พระคัมภีร์มีเขียนไว้อีกว่า ‘อย่าทดลององค์พระผู้เป็นเจ้าผู้เป็นพระเจ้าของท่าน’” พระเยซูก็ไม่ได้หลงไปกับการล่อลวงของมารแม้แต่น้อย พระองค์ทรงเชื่อและวางใจพระเจ้า
รูปภาพที่ 4 มารจึงนำพระองค์ขึ้นไปบนภูเขาที่สูงมาก และได้แสดงบรรดาราชอาณาจักรในโลก ทั้งความรุ่งโรจน์ของราชอาณาจักรเหล่านั้นให้พระองค์เห็น แล้วได้ทูลพระองค์ว่า “ถ้าท่านจะก้มลงนมัสการเรา เราจะให้สิ่งทั้งปวงเหล่านี้แก่ท่าน” พระเยซูจึงตรัสตอบว่า “จงไปให้พ้น เจ้าซาตาน เพราะพระคัมภีร์มีเขียนไว้ว่า ‘จงกราบนมัสการองค์พระผู้เป็นเจ้าผู้เป็นพระเจ้าของท่าน และปรนนิบัติพระองค์แต่ผู้เดียว’” เมื่อมารไม่สามารถล่อลวงพระเยซูได้ มารจึงไปจากพระองค์จนกว่าจะถึงโอกาสเหมาะ หลังจากนั้นพวกทูตสวรรค์ก็มาปรนนิบัติพระองค์
แผนการแห่งความรอด
พระเยซู ผู้เป็นพระบุตรของพระเจ้าลงมาในโลกนี้เป็นมนุษย์สามัญชน โดยมีเป้าหมายเพื่อช่วยมนุษย์จากการเป็นทาสของบาปและจากความตาย ในฮีบรู 2:17-18 บอกเราว่า เพราะเหตุนี้พระองค์จึงต้องเป็นเหมือนกับพี่น้องทุกอย่าง เพื่อจะได้เป็นมหาปุโรหิตคือเป็นคนกลางระหว่างพระเจ้าและมนุษย์ ในการกระทำกิจเพื่อลบล้างบาปของคนทั้งปวง เพราะพระองค์เองได้ทรงทนทุกข์ และถูกทดลอง พระองค์จึงทรงสามารถช่วยผู้ที่ถูกทดลองได้ พระเยซูทรงรู้จักความหิว ความอ่อนแอ เหนื่อยล้า พระองค์มีความรู้สึก และมีความต้องการเหมือนกับครูและหนู แต่ถึงกระนั้น พระองค์สามารถเอาชนะเนื้อหนังของตัวเอง เอาชนะการล่อลวงของมารซาตาน พระองค์ไม่มีบาป แต่ยอมรับโทษบาปแทนพวกเรา เพื่อเราจะถูกนับว่าเป็นคนชอบธรรมต่อหน้าพระเจ้า ได้กลับคืนดีกับพระองค์ได้
พระคัมภีร์เกี่ยวข้องกับหนูอย่างไร
เมื่อพระเยซูถูกทดลอง ไม่เพียงพิสูจน์ว่าพระเยซูมีอำนาจเหนือมารซาตาน แต่ยังแสดงให้เห็นว่าพระองค์มีความอยากและความปรารถนาเหมือนคนทั่วไป เหมือนครูและหนู ดังนั้นพระองค์จึงเข้าใจเมื่อเราถูกทดลอง และพระองค์ยังสามารถช่วยเหลือหนูได้ สำหรับเด็กที่ยังไม่เคยต้อนรับพระเยซูเป็นพระผู้ช่วยให้รอด ถ้าหนูต้องการให้พระองค์เป็นผู้ช่วยให้หนูชนะการทดลอง ข้อท่องจำของเราวันนี้บอกเราว่า ถ้าหนูนอบน้อมต่อพระเจ้า หมายถึงยอมรับพระเจ้า พระองค์จะเป็นกำลังช่วยหนูในการต่อสู้กับอุปสรรคปัญหา การทดลองต่างๆ แล้วมารมันจะหนีไป
สำหรับเด็กที่รับเชื่อแล้ว พระเจ้าได้สัญญากับลูกๆ ของพระองค์ว่า ไม่มีการทดลองใดที่ยากเกินกว่าที่ลูกของพระองค์จะทนได้ พระองค์จะโปรดประทานทางออกให้กับหนู ดังนั้นหนูต้องพึ่งพากำลังของพระเจ้าและขยันขันแข็งในการเก็บพระคำของพระเจ้าไว้ในใจ เพื่อใช้ต่อสู้กับการทดลองของมาร
รูปภาพประกอบ
ข้อกำหนดในการใช้บทเรียนรูปภาพ เราต้องการให้บทเรียนและรูปภาพประกอบเป็นพระพรสำหรับทุกท่าน ดังนั้นจึงขอความร่วมมือจากท่านที่จะไม่นำไปใช้ในเชิงพาณิชย์ หรือใช้ในทางที่เบี่ยงเบนไปจากวัตถุประสงค์ของเรา
คำถามอภิปราย
(คำถามไม่เพียงทบทวนเนื้อหาจากบทเรียนเท่านั้น แต่ช่วยกระตุ้นให้เด็กได้คิดใคร่ครวญประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง บางคำถามอาจไม่มีคำตอบผิดหรือถูก แต่ช่วยให้เกิดการอภิปรายกันในห้องเรียน ในขณะเดียวกันเด็กจะได้เรียนรู้ในการแสดงความคิดเห็นและรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่นด้วย)
- ทำไมมารีย์ถึงยอมรับที่จะตั้งครรภ์ทั้งที่นางยังไม่ได้แต่งงานกับโยเซฟ?
- ถ้าหนูเป็นมารีย์หรือโยเซฟ หนูจะยอมทำตามที่พระเจ้าสั่งให้พวกเขาทำไหม เพราะอะไร?
- ถ้าหนูเป็นคนเลี้ยงแกะหนูจะรู้สึกอย่างไรเมื่อเห็นทูตสวรรค์มาปรากฏตัวท่ามกลางความมืด?
- หนูคิดว่าทำไมทูตสวรรค์ถึงมาบอกข่าวดีให้กับคนเลี้ยงแกะ?
- ทำไมพระเยซูบุตรพระเจ้าถึงมาเกิดเป็นคนธรรมดาที่ไม่มียศถาบรรดาศักดิ์เลย?
- ถ้าหนูเป็นมารีย์และโยเซฟ เมื่อคนเลี้ยงแกะเล่าถึงสิ่งที่ได้เห็นและได้ยินมาให้ฟัง หนูจะรู้สึกอย่างไร เพราะอะไร?
- หนูประทับใครหรือตอนไหนในบทเรียนนี้บ้าง อย่างไร?
กิจกรรม
ใช้ปัญญาสู้การทดลอง
วิธีทำกิจกรรม
- ให้เด็กทุกคนยืนหน้ากระดานเรียงหนึ่ง อาจทำกิจกรรมนี้ด้านนอกห้องเรียนหากพื้นที่ในห้องไม่เพียงพอ
- เมื่อเด็กทุกคนยืนแล้ว ครูอธิบายให้เด็กฟังว่า “ครูจะอ่านแต่ละประโยค 2 ครั้ง ช้าๆ ถ้าหนูไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่ปรีชาทำ ให้หนูเดินมาข้างหน้า 1 ก้าว ถ้าหนูเห็นด้วยกับสิ่งที่ปรีชาทำ ให้หนูยืนอยู่กับที่ ครูจะมีประโยคทั้งหมด 10 ประโยค หลังจากอ่านครบแล้วเราจะมาดูกันว่าใครที่สามารถชนะการทดลองด้วยปัญญากันบ้าง”
- ครูเริ่มอ่านประโยคดังต่อไปนี้
- ปรีชารู้สึกหิวและไม่เห็นใครอยู่ในห้อง เขาจึงแอบหยิบเงินในกระเป๋าของแม่ไปซื้อขนมกิน
- ปรีชากลัวพ่อแม่เสียใจ เขาจึงไม่บอกพ่อแม่ว่าเขาสอบตก 2 วิชา ในการสอบกลางเทอม
- ปรีชาอยากได้คะแนนสูงๆ เมื่อเพื่อนของเขาให้ลอกข้อสอบ เขาจึงรีบแอบลอกทันที
- เพื่อนชวนปรีชาไปเล่นฟุตบอล ปรีชายังทำการบ้านไม่เสร็จ เขาชอบเล่นฟุตบอลมาก เขาจึงหยุดทำการบ้าน และไปเล่นฟุตบอลกับเพื่อนทันที
- ปรีชาอยากซ้อมเตะฟุตบอล ปรีชาจึงเตะหมาเพื่อฝึกการใช้เท้า
- ปรีชารู้สึกโกรธ จึงปาข้าวของที่อยู่ใกล้มือ
- ปรีชาลืมเอาเงินค่าขนมมาโรงเรียน เขาจึงขอยืมเงินเพื่อนเพื่อซื้อขนม แต่เขาไม่ยอมคืนเงินให้เพื่อนในวันถัดไป
- น้องสาวของปรีชาหัดขี่จักรยาน น้องขี่เซไปเซมาแล้วหกล้ม ปรีชาหัวเราะที่น้องขี่จักรยานไม่เป็น
- แม่ให้เงินปรีชาไปซื้อน้ำปลาที่ร้านขายของชำใกล้บ้าน ปรีชาสะดุดก้อนหินหกล้ม ขวดน้ำปลาแตก ปรีชาบอกแม่ว่า หมาวิ่งไล่จนเขาหกล้ม
- ปรีชาเจอเพื่อนในห้องน้ำกำลังสูบบุหรี่อยู่ เขาจึงขอลองสูบบ้าง
- ครูเฉลยว่าเด็กที่ยืนอยู่ไกลจากจุดเริ่มต้นมากที่สุดถือได้ว่าเขาเอาชนะการทดลองด้วยการใช้ปัญญา หลังจากนั้นให้เด็กช่วยกันอภิปรายแสดงความคิดว่าทำไมเขาถึงไม่เห็นด้วยกับหัวข้อต่างๆ มีวิธีที่ดีกว่าในการแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้อย่างไรบ้าง?