เมื่อกลับบ้านวันนี้ หนูจะได้
- รู้ว่าพระเจ้าต้องการที่จะอวยพรคนที่เชื่อฟังพระองค์
- เข้าใจว่าหากหนูไม่เชื่อฟังพระเจ้า ผลร้ายจะตกเป็นของตัวหนูเอง
- ตั้งใจที่จะเชื่อฟังพระเจ้า และดำเนินชีวิตในแต่ละวันอย่างระมัดระวัง
ข้อท่องจำ
“ผู้ที่ไปข้างหน้าคือพระเจ้า พระองค์ทรงสถิตอยู่ด้วย พระองค์จะไม่ทรงปล่อยท่านให้ล้มเหลว หรือทอดทิ้งท่านเสีย อย่ากลัวและอย่าขยาดเลย” -เฉลยธรรมบัญญัติ 31:8
T I P S สำหรับคุณครู
การสอนให้เด็กเชื่อฟังและมีวินัยด้วยวิธีการให้รางวัลอย่างพอเหมาะเพื่อกระตุ้นแรงจูงใจให้เด็กร่วมมือ ไวในการชมเชยเมื่อเด็กทำได้ดี การสอนด้วยวิธีที่เป็นบวกนี้มีประโยชน์และเกิดผลดีกว่าการสอนด้วยการห้ามปราม ตำหนิเมื่อเด็กทำผิดไม่เชื่อฟัง หรือลงโทษให้เด็กเกิดความอับอาย
เกม “เป้ายิงฉุบหาผู้นำ”
วิธีเล่น
- ให้เด็กทั้งหมดจับคู่ๆ ละสองคน แต่ละคู่จะเป้ายิงฉุบเพื่อหาผู้ชนะ
- คนที่เป้ายิงฉุบชนะจะได้เป็นหัวและให้คนแพ้ยืนต่อเป็นหาง
- จากนั้นให้เดินไปหาคู่อื่น และให้คนที่เป็นหัวมีสิทธิ์เป้ายิงฉุบ ฝ่ายใดชนะให้อีกฝ่ายยืนต่อเป็นหางต่อไป
- ฝ่ายที่ชนะจะไปหากลุ่มอื่น เพื่อเป้ายิงฉุบ ในเวลานี้กลุ่มเด็กจะลดจำนวนลง และแต่ละกลุ่มจะมีหางยาวขึ้นเรื่อยๆ
- จนในที่สุดจะเหลืออยู่เพียงสองฝ่าย ให้ทั้งสองฝ่ายมาเป้ายิงฉุบ ฝ่ายที่แพ้ให้ไปยืนต่อเป็นหางของอีกฝ่ายหนึ่ง เด็กที่เป็นหัวคือผู้ชนะ ครูอาจให้เด็กเริ่มเล่นใหม่อีก (ขึ้นอยู่กับเวลา)
บทนำเรื่อง
ครูอาจเตรียมกระดาษที่มีลายสวยงาม และเขียนคำว่า “พินัยกรรมของฉัน” บนหัวกระดาษแต่ละแผ่นสำหรับนักเรียนแต่ละคน นำให้เด็กแต่ละคนเขียนพินัยกรรมของตัวเอง โดยจำลองสถานการณ์ให้เด็กทุกคนจินตนาการว่าจะต้องจากโลกนี้ไปในอีกหนึ่งสัปดาห์ ให้เด็กเขียนลงไปในพินัยกรรมของเขาว่าเขาต้องการให้จัดการกับสมบัติหรือสิ่งของต่างๆ ในห้องของเขาอย่างไร หนังสือ สมุด เกมส์และอื่นๆ เขาอยากจะยกให้ใคร และอยากจะให้ใครเป็นคนที่จะดูแลจัดการเรื่องของเขาเวลาที่เขาไม่อยู่ในโลกนี้แล้ว เมื่อเด็กทำกิจกรรมเสร็จให้เด็กทุกคนมีโอกาสอ่านพินัยกรรมของเขาให้เพื่อนๆ ฟัง
เป้าหมายของกิจกรรมนี้ เพื่อให้เด็กได้เห็นว่าทุกคนจะต้องประสบกับวันๆ หนึ่งที่เขาจะต้องจากโลกนี้ไป อันดับแรกเขาจะต้องแน่ใจว่าผู้ที่เชื่อและวางใจในพระเยซู เมื่อเขาจากโลกนี้ไป เขาจะได้ไปอยู่กับพระเจ้า ประการถัดมาคือ เขาจะต้องคิดถึงคนที่เขากำลังจะจากไป ยิ่งถ้าเขาเป็นผู้ใหญ่ เป็นหัวหน้าครอบครัว หรือมีหน้าที่การงานที่รับผิดชอบมากมาย เขายิ่งต้องคิดวางแผนว่าใครจะเป็นคนที่มารับหน้าที่แทนเขา ดูแลสิ่งต่างๆ แทนเขาได้ เช่นเดียวกับเรื่องของโมเสสที่เขากำลังแก่ตัวลง และกำลังจะเสียชีวิต เขาเป็นห่วงประชาชนอิสราเอลที่เขาดูแล และพระเจ้าได้จัดเตรียมคนที่จะมาทำหน้าที่แทนโมเสส เมื่อโมเสสทูลขอจากพระเจ้า
เล่าเรื่องจากพระคัมภีร์
ภาพที่ 1 โมเสสผู้รับใช้ของพระเจ้าได้นำชนชาติอิสราเอลออกจากการเป็นทาสในอียิปต์ ข้ามทะเลแดงอย่างอัศจรรย์ด้วยฤทธิ์อำนาจจากพระเจ้า โมเสสได้เข้าเฝ้าพระเจ้าหน้าต่อหน้าบนภูเขาซีนาย และได้นำอิสราเอลเดินทางผ่านถิ่นทุรกันดารมาร่วม 40 ปี เขาได้สั่งสอนและถ่ายทอดบัญญัติ กฏหมายของพระเจ้าให้แก่ชนชาติอิสราเอล และเป็นตัวแทนของอิสราเอลทูลร้องขอต่อพระเจ้า โมเสสเป็นผู้นำ และเป็นผู้เผยพระวจนะซึ่งพระคัมภีร์บันทึกไว้ว่า “ตั้งแต่วันนั้นมาก็ไม่มีผู้เผยพระวจนะคนใดเกิดขึ้นในอิสราเอลเสมอโมเสส ผู้ซึ่งพระเจ้าทรงรู้จักหน้าต่อหน้า” (เฉลยธรรมบัญญัติ 34:10)
ภาพที่ 2 ในช่วงบั้นปลายชีวิตของโมเสส เขาได้กำชับสั่งสอนประชาชนและเตือนให้อิสราเอลเชื่อฟังพระผู้เป็นเจ้าของพวกเขา โมเสสอ้างพระสัญญาของพระเจ้าว่า ถ้าพวกเขาเชื่อฟังพระเจ้า ดำเนินตามทางของพระองค์และไม่หันไปกราบไหว้พระอื่น พระเยโฮวาห์จะให้พวกเขาได้รับ
พรในเมือง ศัตรูที่มาโจมตีจะพ่ายแพ้หนีไป ชนชาติทั้งหลายจะเกรงกลัวพวกเขา พระเจ้าจะทำให้เขาเป็นหัวไม่ใช่หาง ทำให้เขาสูงขึ้นไม่ต่ำลง
พรในทุ่งนา ผลจากแผ่นดินและจากฝูงสัตว์ของพวกเขาจะเพิ่มพูนมากขึ้น ยุ้งฉางของเขาจะอุดมสมบูรณ์ พระเจ้าจะเปิดคลังฟ้าอันดีของพระองค์ ประทานฝนแก่พวกเขาตามฤดูกาล และสิ่งที่พวกเขาทำจะเกิดดอกออกผล
พรในพงศ์พันธุ์ พระเจ้าจะกระทำให้พงศ์พันธุ์ของเขาอุดมสมบูรณ์ เขาจะเป็นชนชาติบริสุทธิ์ของพระเจ้า และชนชาติทั้งหลายในโลกจะเห็นพระสิริของพระเจ้า
แต่ถ้าพวกเขาไม่เชื่อฟังพระเจ้า ไม่รักษาบัญญัติของพระองค์ และหันไปปรนนิบัติพระอื่น คำสาปแช่งจะตกอยู่บนพวกเขา
คำสาปแช่งในเมือง พระเจ้าจะบันดาลให้เกิดความวุ่นวาย ให้เกิดโรคร้าย พวกเขาจะพ่ายแพ้ต่อศัตรูของพวกเขา และจะตกไปเป็นทาส เพราะพวกเขาไม่ปรนนิบัติพระเจ้า พวกเขาจึงต้องไปเป็นทาสรับใช้ศัตรู พวกเขาจะถูกเด็ดทิ้งเสียจากแผ่นดิน และกระจัดกระจายไปทุกสารทิศ พวกเขาจะไม่พบกับความสบาย และส้นเท้าของเขาจะไม่มีที่หยุดพัก
คำสาปแช่งในนา ฝนในแผ่นดินจะกลายเป็นฝุ่นละอองลงมาจากฟ้า หากเขาหว่านมากก็จะเก็บเกี่ยวได้เพียงเล็กน้อย ประชาชาติอื่นจะเข้ามายึดและดื่มกินผลผลิตของพวกเขา เขาจะถูกบีบคั้นและเหยียบย่ำ พวกเขาจะต้องทนทุกข์ลำบากกับความหิวและขัดสน จนพวกเขาต้องกินเนื้อลูกของตนเอง
คำแช่งสาปในพงศ์พันธุ์ บุตรชายและบุตรหญิงของพวกเขาจะถูกจับไปเป็นเชลยแก่ชาติอื่น เขาจะเป็นขี้ปากท่ามกลางชนชาติทั้งหลาย
ภาพที่ 3 เมื่อโมเสสแก่มากแล้ว เขาเป็นห่วงชนชาติอิสราเอลมาก โมเสสทูลกับพระเจ้าว่า “ขอพระเยโฮวาห์ทรงแต่งตั้งชายผู้หนึ่งไว้เหนือชุมนุมชนนี้ เพื่อว่าชุมนุมชนของพระเจ้าจะมิได้เหมือนกับฝูงแกะที่ไม่มีผู้เลี้ยง” พระเจ้าจึงเลือกโยชูวาบุตรนูน ผู้ประกอบด้วยสติปัญญา และความกล้าหาญ (หนึ่งในคนสอดแนมสองคนที่เชื่อพระสัญญาของพระเจ้า) ผู้มีพระวิญญาณอยู่ภายในเขา ต่อหน้าประชาชนอิสราเอล และต่อหน้าเอเลอาซาร์ปุโรหิต โมเสสได้วางมือลงบนโยชูวาและกล่าวว่า “จงเข้มแข็งและกล้าหาญเถิด เพราะท่านจะต้องไปกับชนชาตินี้เข้าไปในแผ่นดินซึ่งพระเจ้าปฏิญาณแก่บรรพบุรุษว่าจะประทานแก่เขา ท่านจงให้เขาได้ยึดครองแผ่นดินนั้น ผู้ที่ไปข้างหน้าคือพระเจ้า พระองค์ทรงสถิตอยู่ด้วย พระองค์จะไม่ทรงปล่อยท่านให้ล้มเหลวหรือทอดทิ้งท่านเสีย อย่ากลัวและอย่าขยาดเลย”
ภาพที่ 4 พระเจ้านำโมเสสไปบนภูเขาเนโบซึ่งอยู่ตรงข้ามแผ่นดินพันธสัญญา พระองค์ทรงให้โมเสสเห็นแผ่นดินนั้นกับตา แต่เขาไม่ได้เข้าไปในแผ่นดินนั้น โมเสสสิ้นชีวิตเมื่ออายุ 120 ปี ตาของเขามิได้มั่วไปหรือกำลังของเขาก็ไม่ถอย หลังจากนั้นโยชูวา ผู้ที่พระเจ้าทรงเลือกได้ขึ้นมาทำหน้าที่นำชนชาติอิสราเอลเข้าไปยึดแผ่นดินพันธสัญญามาเป็นกรรมสิทธิ์ตามที่พระเจ้าได้สัญญาไว้
แผนการของพระเจ้า
สิ่งที่พระเจ้าต้องการจากมนุษย์ไม่ใช่ทรัพย์สมบัติ ความเก่งความสามารถหรือสิ่งที่มนุษย์ทำให้กับพระเจ้า แต่พระองค์ต้องการหัวใจที่เชื่อฟัง อิสราเอลเป็นตัวอย่างที่พระเจ้าใช้เพื่อให้การงานของพระเจ้าปรากฏแจ้งต่อคนทั้งปวง พระเจ้าสัญญาว่าพระเจ้าจะอวยพรเขาอย่างไรหากพวกเขาเชื่อฟังพระเจ้า พระองค์ก็ทำอย่างนั้นทุกประการ แต่ภายหลังเมื่ออิสราเอลไม่เชื่อในพระเจ้า ไปกราบไหว้พระอื่น ประเทศของเขาก็ถูกทำลาย ตกไปเป็นเมืองขึ้น และผู้คนถูกฆ่า ถูกข่มเหง กระจัดกระจายไปเป็นเวลาหลายร้อยปี ประเทศอิสราเอลเพิ่งได้รับอิสรภาพและประกาศเอกราชอีกครั้งเมื่อเดือนพฤษภาคม 1948 นี้เอง
พระคัมภีร์เกี่ยวข้องกับหนูอย่างไร
ภาพที่ 5 พระเจ้าทรงเลือกโยชูวาเป็นผู้รับช่วงต่อจากโมเสส เพราะโยชูวาเป็นคนที่เชื่อต่อสัญญาของพระเจ้า เมื่อหนูโตขึ้น หนูอยากจะทำอะไร? ครูอยากให้หนูกล้าหาญเหมือนโยชูวา ถ้าหนูเชื่อในพระเจ้า คนที่นำไปข้างหน้าหนูคือพระเจ้า พระองค์จะสถิตอยู่กับหนู พระเจ้าจะไม่ปล่อยให้หนูล้มเหลวหรือทอดทิ้งหนู เพราะฉะนั้นครูอยากให้หนูมีความกล้า และตั้งใจทำในสิ่งที่หนูอยากจะเป็น ถ้าสิ่งนั้นเป็นน้ำพระทัยของพระเจ้า พระองค์จะช่วยหนูให้ทำได้สำเร็จแน่นอน
รูปภาพประกอบ
ข้อกำหนดในการใช้บทเรียนรูปภาพ เราต้องการให้บทเรียนและรูปภาพประกอบเป็นพระพรสำหรับทุกท่าน ดังนั้นจึงขอความร่วมมือจากท่านที่จะไม่นำไปใช้ในเชิงพาณิชย์ หรือใช้ในทางที่เบี่ยงเบนไปจากวัตถุประสงค์ของเรา
คำถามอภิปราย
(คำถามไม่เพียงทบทวนเนื้อหาจากบทเรียนเท่านั้น แต่กระตุ้นให้เด็กได้คิดใคร่ครวญประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง บางคำถามอาจไม่มีคำตอบผิดหรือถูก แต่ให้เกิดการอภิปรายกันในห้องเรียน ในขณะเดียวกันเด็กจะได้เรียนรู้ในการแสดงความคิดเห็นและรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่นด้วย)
- หนูคิดว่าพระเจ้าต้องการให้คนของพระองค์เป็นอย่างไรมากที่สุด?
- พระเจ้าสัญญาว่าอะไรบ้างหากอิสราเอลเชื่อฟังพระองค์?
- พระเจ้าสาปแช่งอะไรบ้างหากอิสราเอลไม่เชื่อฟังพระองค์ และไปปรนนิบัติพระอื่น?
- หนูคิดว่าจะมีวิธีไหนบ้างที่จะช่วยให้หนูติดสนิทกับพระเจ้า เชื่อฟังพระองค์ และไม่ลืมพระเจ้า?
- พระเจ้าเลือกโยชูวาให้เป็นผู้นำคนต่อไป เขามีลักษณะดีอย่างไรบ้าง?
- โมเสสกำชับโยชูวาอย่างไรบ้าง เมื่อเขาแต่งตั้งโยชูวา?
กิจกรรม
อย่ากลัวเลย
สิ่งที่ต้องเตรียม
- กระดาษแข็งขนาด 4x4 นิ้ว
- ที่เจาะรูกระดาษ
- เชือกหรือไหมพรม
- ลูกปัดสีหรือกระดิ่งเล็ก
- ปากกา
- กรรไกร
- สีสำหรับระบาย
วิธีทำ
- ครูเตรียมกระดาษแข็งขนาด 4x4 นิ้ว เจาะรูด้านบน 2 รู และด้านล่างอีก 5 รูเท่าๆ กันสำหรับเด็กแต่ละคน
- เมื่อเด็กได้รับกระดาษที่ครูเตรียมไว้ล่วงหน้าแล้ว ให้เด็กเขียนชื่อของตนเองตัวใหญ่ไว้ด้านบนกระดาษ และเขียนข้อท่องจำของสัปดาห์นี้ไว้ด้านล่าง และตกแต่งระบายสีให้สวยงาม
- ครูแจกเชือกหรือไหมพรมให้เด็กคนละ 7 เส้น (ความยาว 3 นิ้ว)
- ใช้เชือกสองเส้นผูกปมสำหรับแขวนแผ่นป้ายด้านบน
- เชือกอีก 5 เส้นให้ทำปมที่ปลายเชือกแล้วใส่ลูกปัดสีในเชือกแต่ละเส้น
- นำปลายเชือกอีกด้านหนึ่งร้อยผ่านกระดาษที่ตกแต่งแล้ว และทำปมไว้ด้านหลังกระดาษ
- ทำเช่นเดียวกันให้ครบทั้ง 5 รู จะได้ป้ายชื่อที่สวยงาม
- ครูควรหนุนใจให้เด็กใช้ป้ายชื่อนี้ ไปแขวนในห้องนอนหรือโต๊ะทำการบ้านของเด็ก เพื่อจะเป็นการเตือนให้เด็กเข้าใจว่าพระเจ้าอยู่กับเขาเสมอ จะไม่ละทิ้งเขา ดังนั้นเขาไม่ต้องกลัวสิ่งใด
กิจกรรม
มาเชื่อฟังพระเจ้ากันเถอะ
หนูเรียนรู้แล้วว่าถ้าอิสราเอลเชื่อฟังพระเจ้า พระเจ้าจะอวยพรพวกเขาอย่างมากมาย พระเจ้าบอกหนูว่า อย่ากลัวเลยเพราะพระองค์จะอยู่กับหนูเสมอ ถ้าหนูเชื่อฟังพระเจ้า พระองค์จะอวยพรหนูเช่นกัน ตอนนี้หนูลองเลือกดูซิว่าหนูจะเชื่อฟังพระเจ้าได้อย่างไรบ้าง (ขีดเครื่องหมาย √ หน้าสิ่งที่หนูจะทำ และ × หน้าสิ่งที่หนูจะไม่ทำ)