บทเรียน : ความบาปของอาคาน

เมื่อกลับบ้านวันนี้ หนูจะได้

  • เข้าใจว่าการไม่เชื่อฟังพระเจ้านั้นเป็นความบาป
  • เห็นว่าความบาปครั้งเดียวอาจทำลายชีวิตของหนูและคนอื่นๆ ได้
  • สารภาพความผิดบาปของหนู

ข้อท่องจำ

“ถ้าเราสารภาพความบาปของเรา พระองค์ทรงสัตย์ซื่อและเที่ยงธรรม ก็จะทรงโปรดยกโทษบาปของเรา และจะทรงชำระเราให้พ้นจากการอธรรมทั้งสิ้น”-1 ยอห์น 1:9

T I P S สำหรับคุณครู

การบังเกิดใหม่นั้นเกิดขึ้นครั้งเดียวในชีวิตของผู้เชื่อ ความรอดไม่ขึ้นอยู่กับการกระทำของเรา แต่พระเจ้าประทานให้ทางพระเยซูคริสต์ ส่วนการสารภาพบาปและกลับใจใหม่เป็นกระบวนการที่ผู้เชื่อสามารถทำได้ทุกครั้ง เมื่อรู้ตัวว่าได้ทำบาปต่อพระเจ้า การสารภาพบาปเป็นหนทางที่เราจะกลับมาคืนดีกับพระเจ้า และมีความสัมพันธ์ที่ดีกับพระองค์ได้

เกม “โยชูวาสั่งว่า”

วิธีเล่น

  • วิธีเล่นคล้ายกับเกมโมเสสสั่งว่า
  • ให้เด็กนั่งล้อมเป็นวงกลมวงเดียว กติกามีอยู่ว่า เด็กต้องทำทุกอย่างตามคำสั่งที่มีคำนำหน้าว่า “โยชูวาสั่งว่า” เช่น โยชูวาสั่งว่าให้เด็กทุกคนยืนขึ้น, โยชูวาสั่งว่าให้เด็กที่ใส่กางเกงยกแขนข้างซ้าย
  • แต่ถ้าผู้นำสั่งโดยที่ไม่มีคำว่า “โยชูวาสั่งว่า” เด็กไม่ต้องทำ หากใครเผลอทำจะต้องถูกหยุดเล่น
  • ครูอาจเป็นผู้นำ หรือจะขออาสาสมัครขึ้นมาเป็นผู้นำก็ได้ เล่นจนจำนวนเด็กลดลงจนเหลือคนสุดท้ายถือเป็นผู้ชนะ หรือผู้ได้รับรางวัลแห่งการเชื่อฟังผู้นำ

บทนำเรื่อง

(ดัดแปลงมาจากใบปลิวขององค์การประกาศข่าวประเสริฐแก่ทุกบ้าน)

ปิ่นกับโต้งสองพี่น้องอาศัยอยู่กับยาย บ้านของยายเป็นบ้านสวน มีต้นไม้ดอก ไม้ผลสารพัดมากมาย ปิ่นผู้เป็นพี่สาวและโต้งน้องชายจะมีหน้าที่สลับกันทำความสะอาดปัดกวาดเช็ดถูล้างถ้วยชามเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระให้กับยายที่มีอายุมากขึ้นทุกๆ ปี

วันหนึ่งโต้งผู้เป็นน้องชาย ออกไปเที่ยวเล่นพร้อมด้วยหนังสติ๊กคู่ใจ ที่ท้ายสวนของยายมีบ่อน้ำที่ยายขุดไว้เลี้ยงเป็ด ด้วยความนึกสนุกโต้งก็ลองเหนี่ยวหนังสติ๊กเล็งไปที่เป็ดที่เดินอุ้ยอายอยู่ริมบ่อ “ตุ๊บ” ก้อนหินที่โต้งยิงเข้าเป้าอย่างจัง เป็ดนอนตายแน่นิ่งอยู่กับที่

“โต้ง แกทำอะไรลงไป เดี๋ยวพี่จะไปฟ้องยายให้แกถูกตี” ปิ่นเผอิญเดินมาเห็นเหตุการณ์พอดี ทำให้โต้งตกใจจนทำอะไรไม่ถูก กลัวจะถูกยายดุและตีเอา จึงขอร้องปิ่นให้เก็บเรื่องไว้เป็นความลับ

ตั้งแต่วันนั้นมา โต้งต้องยอมทำงานบ้าน ล้างถ้วยล้างชามแทนพี่สาวทุกวัน วันไหนที่นึกอยากจะออกไปวิ่งเล่น และไม่ยอมทำงานบ้าน ปิ่นก็จะขู่ว่าถ้าไม่ทำตามสัญญา เธอก็จะไปบอกยายให้โต้งถูกลงโทษ โต้งก็ต้องยอมทำด้วยความจำใจ จนเวลาผ่านไปเป็นเดือน โต้งทนไม่ไหวกับคำขู่ของพี่สาวและความรู้สึกผิดของตัวเองที่ต้องคอยหลบหน้ายายตลอด ในที่สุดโต้งก็ตัดสินใจไปสารภาพความผิดที่ยิงเป็ดของยายตาย

“โต้งเอ๋ย ยายรู้เรื่องนี้ตั้งนานแล้วหล่ะ คอยว่าเมื่อไหร่โต้งจะมาสารภาพผิดด้วยตัวเอง” ยายเอามือลูบหัวหลานด้วยความเอ็นดู

“แล้วโต้งจะถูกยายตีไหม โต้งเสียใจที่ไม่มาสารภาพกับยายตั้งแต่แรก โต้งขอโทษ”

“โต้งขอโทษยายแล้ว ยายก็ไม่เอาผิด ที่จริงที่โต้งต้องทำงานบ้านแทนพี่ปิ่นอยู่ตั้งนานสองนานก็เป็นการลงโทษโต้งไปแล้วหละ”

ตั้งแต่โต้งสารภาพผิดกับยาย เขาก็ไม่มีความกลัวอีก และไม่ต้องตกเป็นเบี้ยล่างคอยทำงานบ้านแทนพี่สาวอีกต่อไป

เล่าเรื่องจากพระคัมภีร์

ภาพที่ 1  เมื่อพระเจ้าช่วยอิสราเอลเข้ายึดครองเมืองเยรีโค โดยฤทธิ์เดชของพระเจ้ากำแพงเมืองนั้นได้ถล่มลงมาโดยไม่ต้องใช้กำลังทหารแต่อย่างใด อัศจรรย์ พระเจ้าของเราอัศจรรย์จริงๆ ในเวลานั้นพระเจ้าสั่งให้อิสราเอลเข้าไปในเมืองและทำลายสิ่งสารพัดที่อยู่ในเมืองนั้นเพราะถือว่าเป็นของที่ต้องทำลายถวายแด่พระเจ้า (สำหรับครู-เยรีโคเป็นหัวเมืองแรกที่อิสราเอลเข้าครอบครอง จึงนับว่าเยรีโคเป็นผลแรกที่อิสราเอลจะต้องถวายให้กับพระเจ้า) แต่ในหมู่คนอิสราเอล อาคานชายจากเผ่ายูดาห์ได้ขัดขืนและละเมิดพันธสัญญาในเรื่องของถวายนี้ เขาได้เก็บของบางส่วนไว้เป็นของตน จึงทำให้พระพิโรธของพระเจ้าตกอยู่เหนือคนอิสราเอลทั้งหมด

ภาพที่ 2  ฝ่ายโยชูวาผู้นำอิสราเอลหารู้เรื่องที่อาคานได้ทำไปไม่ เขาได้ส่งคนไปสอดแนมเมืองอัยซึ่งอยู่ไม่ไกลจากเยรีโค ชายสอดแนมกลับมารายงานว่าไม่จำเป็นที่จะต้องส่งอิสราเอลไปทั้งหมด เพราะเมืองอัยมีคนน้อย (12,000 คนจากโยชูวา 8:25) ดังนั้น   โยชูวาจึงส่งคนไปเพียงสามพันคนเพื่อเข้าไปตีเมืองอัย แต่พวกเขากลับพ่ายแพ้ถูกขับไล่กลับมาอย่างไม่เป็นท่า

 

ภาพที่ 3  โยชูวาฉีกเสื้อผ้าของตนซบหน้าลงถึงดินต่อหน้าพระเจ้า พร้อมกับพวกผู้ใหญ่ของคนอิสราเอลต่างก็เอาผงคลีดินใส่ศีรษะของตนทูลถามพระเจ้าว่า เหตุไฉนพระเจ้าจึงให้เหตุการณ์เป็นเช่นนี้ไปได้ ทำไมพระองค์นำพวกเขาข้ามแม่น้ำจอร์แดนมายึดเอาแผ่นดินคานาอัน แต่ตอนนี้กลับต้องพ่ายแพ้เมืองเล็กๆ เมืองหนึ่ง พระเจ้าตรัสกับโยชูวาว่าคนอิสราเอลได้ทำบาป เขาได้ละเมิดพันธสัญญาเรื่องของถวายที่พระเจ้าได้สั่งไว้ เขายักยอกของที่ต้องถวาย เขาขโมยและหลบซ่อนไว้ ด้วยเหตุนี้คนอิสราเอลจึงพ่ายแพ้ต่อสงครามในครั้งนี้ พวกเขาจะยืนหยัดต่อสู้ศัตรูไม่ได้ และพระเจ้าจะไม่สถิตอยู่กับเขาอีกต่อไปจนกว่าจะนำสิ่งของที่ต้องถวายนั้นออกเสียจากหมู่พวกเขา และผู้ใดที่ถูกจับได้ว่ามีของต้องถวาย จะต้องถูกเผาเสียด้วยไฟพร้อมทั้งสารพัดที่เป็นของเขา

ภาพที่ 4 ในวันรุ่งขึ้นโยชูวานำคนอิสราเอลเข้ามาที่ละเผ่า พระเจ้าเลือกจับเผ่ายูดาห์ หลังจากนั้นจึงนำตระกูลในยูดาห์เข้ามาทีละตระกูล ทีละครอบครัว และในที่สุดพระองค์เลือกจับอาคานบุตรคารมี โยชูวาขอให้อาคานบอกเล่าความจริงโดยอย่าปิดบัง ดังนั้นอาคานจึงสารภาพว่าตนเองได้กระทำบาปต่อพระเยโฮวาห์พระเจ้าของอิสราเอล เพราะเขาโลภและยักยอกเสื้อคลุมตัวงามตัวหนึ่ง(ถักด้วยเส้นไหมและทอง) เงินสองร้อยเชเคลและทองคำแท่งหนึ่งหนักห้าสิบเชเคล(ประมาณครึ่งกิโลกรัม) เขาเอาของถวายเหล่านี้ซ่อนไว้ใต้ดินในเต็นท์ของเขา

ฝ่ายโยชูวาส่งคนไปที่เต็นท์ของอาคาน และเขาก็พบสิ่งของเหล่านั้นฝังอยู่ใต้ดินภายในเต็นท์ของเขาจริงๆ ดังนั้นโยชูวาและคนอิสราเอลทั้งหลายจึงพาอาคาน พร้อมกับเสื้อคลุมตัวนั้น เงิน ทองคำแท่ง ทั้งบุตรชายหญิงของเขา (สำหรับครู-ตามบัญญัติของพระเจ้าในเฉลยธรรมบัญญัติ 24:16 กล่าว่า อย่าให้บุตรรับโทษถึงตายแทนความผิดของบิดา และให้แต่ละคนรับโทษของตนเอง จึงสันนิษฐาได้ว่าลูกๆ ของอาคานอาจมีส่วนสมรู้ร่วมคิดในการทำบาปครั้งนี้ด้วย)  วัว ลา แพะแกะ และทุกสิ่งที่เขามีอยู่ พาเขาขึ้นไปยังหุบเขาอาโคร์(แปลว่าความยากร้าย) และคนอิสราเอลก็เอาหินขว้างเขา และเผาเขาทั้งหลายด้วยไฟแล้วเอาหินกองทับไว้เป็นกองใหญ่ ดังที่พระเจ้าได้ทรงเตือนพวกเขาไว้ก่อนที่อิสราเอลจะเข้ายึดเยรีโคว่า “ส่วนท่านทั้งหลายจงห่างไกลจากของที่ต้องทำลายถวายนั้น เกรงว่าเมื่อท่านทั้งหลายได้ถวายสิ่งเหล่านั้นแล้ว ท่านจะเก็บสิ่งที่ถวายแล้วนั้นไว้บ้างก็จะทำให้ค่ายของคนอิสราเอลเป็นสิ่งที่ต้องทำลาย และนำความทุกข์ลำบากมาสู่”

หลังจากนั้นพระเจ้าจึงตรัสกับโยชูวาว่า อย่ากลัวหรือขยาดเลย ให้นำทหารลุกขึ้นไปตีเมืองอัย และพระเจ้าจะมอบกษัตริย์และเมืองนั้นไว้ในมือของเขา สงครามครั้งนี้พระองค์ให้ทำลายคนทั้งหมดในเมืองนั้น แต่ข้าวของและสัตว์ที่ริบมาได้นั้นให้ตกเป็นของคนอิสราเอล โยชูวาจึงลุกขึ้นพร้อมกับทหารและยกทัพไปตีเมืองอัย จนในที่สุดเมืองอัยก็พ่ายแพ้ ชาวเมืองอัยทั้งหมดก็ถูกทำลาย เมืองนั้นก็ถูกเผาผลาญด้วยไฟ แต่ส่วนบรรดาฝูงสัตว์และข้าวของในเมืองนั้นอิสราเอลก็ริบมาเป็นของตนตามที่พระเจ้าได้บัญชาไว้ น่าเสียดายที่อาคานและครอบครัวของเขาไม่ยับยั้งชั่งใจอดทนรอสิ่งที่เขาสามารถครอบครองเป็นเจ้าของได้อย่างชอบธรรม

แผนการของพระเจ้า

พระลักษณะสำคัญของพระเจ้าอย่างหนึ่งคือ พระองค์ทรงบริสุทธิ์ และพระองค์ปรารถนาให้คนของพระองค์บริสุทธิ์ด้วยเช่นกัน แต่เพราะความบาป บาปแห่งการไม่เชื่อฟังพระเจ้า ทำให้เราได้รับผลแห่งบาปนั้น คือความพ่ายแพ้ ความตาย อย่างไรก็ตามชนชาติอิสราเอลเป็นตัวอย่างแสดงให้เราเห็นถึงความสัตย์ซื่อ และพระเมตตาของพระเจ้าต่อมนุษย์ แม้อิสราเอลได้พลั้งพลาดไปครั้งแล้วครั้งเล่า พระองค์ก็ยังคงเมตตาให้โอกาส และเกลี่ยทางให้เขากลับคืนดีกับพระองค์ เช่นเดียวกับที่พระองค์ทรงเตรียมแห่งการคืนดีให้กับเราทั้งหลายผ่านทางพระเยซูคริสต์

พระคัมภีร์เกี่ยวข้องกับหนูอย่างไร

ภาพที่ 5  หนูเคยตกอยู่ในสภาพเดียวกับอาคานไหม? หนูอยากจะได้ของๆ คนอื่นที่ไม่ใช่ของหนู? หนูเคยทำผิดและปกปิดความผิดนั้นไว้ไม่สารภาพไหม? เราได้เรียนแล้วว่าผลของความบาปนั้น มันน่ากลัวมากๆ อาคานและครอบครัวของเขาต้องตาย แถมอิสราเอลทั้งหมดยังพ่ายแพ้แก่ศัตรูเพราะสิ่งที่เขาทำ วันนี้ถ้าหนูรู้สึกตัวว่าหนูได้ทำความผิดต่อคนอื่น หรือหนูได้ทำสิ่งที่ไม่ดีแล้วปกปิดมันไว้ และอยากจะกลับใจแก้ไข หนูสามารถอธิษฐานสารภาพความผิดของหนูกับพระเจ้าได้ พระเจ้าสัญญาใน 1 ยอห์น 1:9 ว่าถ้าเราสารภาพความผิดบาปของเรา พระองค์ทรงสัตย์ซื่อและเที่ยงธรรม ก็จะทรงโปรดยกบาปของเราและจะทรงชำระเราให้พ้นจากการอธรรมทั้งสิ้น (นำอธิษฐานสารภาพบาป และครูอาจใช้เวลาหลังเลิกเรียนกับเด็กบางคนที่มีปัญหาและต้องการคำปรึกษาส่วนตัว)

รูปภาพประกอบ

ข้อกำหนดในการใช้บทเรียนรูปภาพ  เราต้องการให้บทเรียนและรูปภาพประกอบเป็นพระพรสำหรับทุกท่าน ดังนั้นจึงขอความร่วมมือจากท่านที่จะไม่นำไปใช้ในเชิงพาณิชย์ หรือใช้ในทางที่เบี่ยงเบนไปจากวัตถุประสงค์ของเรา

คำถามอภิปราย

(คำถามไม่เพียงทบทวนเนื้อหาจากบทเรียนเท่านั้น แต่กระตุ้นให้เด็กได้คิดใคร่ครวญประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง บางคำถามอาจไม่มีคำตอบผิดหรือถูก แต่ให้เกิดการอภิปรายกันในห้องเรียน ในขณะเดียวกันเด็กจะได้เรียนรู้ในการแสดงความคิดเห็นและรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่นด้วย)

  1. พระเจ้าสั่งให้อิสราเอลทำอะไรบ้างเมื่อพวกเขาเข้าไปยึดเมืองเยรีโคได้?
  2. ทำไมอิสราเอลจึงพ่ายแพ้ต่อเมืองอัยซึ่งเป็นเพียงเมืองเล็กๆ?
  3. หนูคิดว่าทำไมอาคานถึงทำสิ่งขัดขืนต่อคำสั่งของพระเจ้า?
  4. พวกเขาค้นพบอะไรบ้างในเต้นท์ของอาคาน?
  5. เพราะความบาปของอาคาน ทำให้เกิดอะไรขึ้นกับครอบครัวของเขา?
  6. ใน 1 ยอห์น 1:9 บอกว่าถ้าเราพลั้งพลาดทำความผิดบาปไป เราควรจะทำอย่างไร? (ช่วยให้เด็กท่องข้อท่องจำ)
  7. พระเจ้าสัญญาว่าอย่างไร หากเราสารภาพความบาปผิดของเราต่อพระองค์

กิจกรรม

ความผิดหนเดียว สามารถทำลายชีวิตได้

หนูรู้ไหมว่าบางครั้งการทำความผิดแค่ครั้งเดียวก็สามารถทำลายชีวิตของหนูเองและคนอื่นได้

หนูลองดูรูปข้างล่าง แล้วเขียนบรรยายซิว่าการทำความผิดครั้งเดียวในรูปนี้ สามารถทำให้เกิดผลต่อชีวิตของตัวเองและต่อคนอื่นได้อย่างไรบ้าง

กิจกรรม

ทำความสะอาดวิหารของพระเจ้า

สิ่งที่ต้องเตรียม

  • ถุงสำหรับใส่ขยะ

วิธีทำ

  • ความบาปของอาคานเป็นตัวอย่างให้กับเราทุกๆ คนว่าหากชีวิตของเรามีความบาปที่แอบซ่อนอยู่ พระเจ้าก็จะไม่อวยพรเราได้ ความบาปที่ไม่ได้สารภาพนี้อาจจะส่งผลไปต่อครอบครัว คริสตจักรของเราด้วย
  • ก่อนที่จะเริ่มกิจกรรมนี้ ขอให้ครูชี้ให้เด็กเห็นว่าเราเป็นวิหารของพระเจ้า เด็กๆ จะต้องรักษาให้มันสะอาดทั้งภายในคือจิตใจ จิตวิญญาณ และภายนอกคือร่างกาย ครูอาจใช้เวลานี้ให้เด็กมีโอกาสอธิษฐานสารภาพบาปที่ยังไม่ได้สารภาพ หรือขอให้พระเจ้าช่วยกำจัดนิสัยที่ไม่ดีบางอย่างในชีวิตออกไป
  • ต่อมาชี้แนะให้เด็กดูแลสุขลักษณะพื้นฐานของตัวเด็กเอง เช่น วิธีการอาบน้ำ แปรงฟัน การตัดเล็บมือเล็บเท้า ฯลฯ
  • ครูนำเด็กออกเก็บขยะบริเวณรอบคริสตจักร หรือด้านนอกคริสตจักรในชุมชนที่คริสตจักรตั้งอยู่ การทำกิจกรรมนี้ช่วยให้เด็กรู้จักช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เป็นการรับใช้ง่ายๆ ที่เด็กสามารถทำได้ และที่สำคัญ การทำความสะอาดเป็นเครื่องเตือนความจำว่า “เด็กๆ จำเป็นที่จะต้องรักษาวิหารที่แท้จริงคือร่างกายของเขาให้บริสุทธิ์ต่อพระเจ้า”

กิจกรรม

ทำที่บ้าน