เมื่อกลับบ้านวันนี้หนูจะได้
- เรียนรู้ว่าความชั่วไม่จำเป็นที่จะต้องตอบโต้ด้วยการแก้แค้น แต่สามารถชนะได้ด้วยการทำดีหรือการทำในสิ่งที่ถูกต้อง
- ประทับใจที่ดาวิดไม่ตอบโต้แก้แค้นซาอูล แต่เลือกที่จะเอาชนะความชั่วด้วยการทำดีตอบแทน
- ตั้งใจที่จะไม่ตอบโต้ต่อคนที่ทำไม่ดีและมอบการแก้แค้นไว้กับพระเจ้า
ข้อท่องจำ
“อย่าให้ความชั่วชนะเราได้ แต่จงชนะความชั่วด้วยความดี”
- โรม 12:21
T I P S สำหรับคุณครู
ยากอบ 1:22 “จงเป็นผู้ประพฤติตามพระวจนะ ไม่ใช่เป็นเพียงผู้ฟังเท่านั้น” การเรียนการสอนควรจัดให้มีกิจกรรมที่ให้เด็กมีส่วนร่วมในชั้นเรียนให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ชั้นเรียนพระคัมภีร์ไม่ควรเป็นชั้นเรียนที่ให้เด็กมานั่งฟังครูสอนทางเดียว แต่ให้เด็กได้แสดงความคิดเห็น ตอบสนองต่อบทเรียนที่เขาได้ฟัง คุณครูควรไวต่อทักษะความสามารถและบุคลิกของเด็กแต่ละคน อธิษฐานขอสติปัญญาจากพระเจ้าในการปฏิบัติต่อเด็กที่ชอบแสดงออกโดยไม่คำนึงถึงเด็กคนอื่นๆ หรือต่อเด็กที่ขี้อายไม่ชอบพูดต่อหน้ากลุ่มคน การมีส่วนร่วมของเด็กทำให้เขารู้สึกได้ว่าเขาเป็นส่วนหนึ่งของชั้นเรียน และนี่เป็นเหตุผลอันดับต้นๆ ที่ทำให้เด็กต้องการเข้าชั้นเรียน
เกม “โพงพาง”
สิ่งที่ต้องเตรียม
- ผ้าปิดตา 1-2 ผืน
วิธีการเล่น
- กำหนดพื้นที่ในการเล่นเกม อาจจะเป็นในห้องเรียน หรือถ้าเป็นนอกอาคารให้จำกัดอยู่ในพื้นที่ที่ไม่กว้างมากนัก
- เลือกเด็ก 1 คน เพื่อรับบทสมมุติเป็นซาอูล (ถ้ามีเด็กจำนวนมากสามารถเลือกมา 2 คนก็ได้ ) เด็กที่ถูกเลือกให้เป็นซาอูล ต้องใส่ผ้าปิดตา
- ให้เด็กที่เหลือเป็นดาวิด ให้ดาวิดถามซาอูลว่า "จับเป็นหรือว่าจับตาย” ถ้าซาอูลตอบว่า "จับเป็น" เด็กๆที่เป็นดาวิดสามารถเดินหรือเคลื่อนไหวเพื่อหนีซาอูลได้ แต่ถ้าซาอูลบอกว่า "จับตาย" เด็กๆที่เป็นดาวิดจะต้องอยู่นิ่งกับที่ ห้ามขยับเขยื้อนหรือเดินหนี
- เด็กที่เป็นซาอูลต้องเดินตามหาดาวิด ซึ่งถ้าเจอตัวแล้ว ต้องทายว่าคนๆ นั้นชื่ออะไร ถ้าทายถูก เด็กคนนั้นต้องมาเป็นซาอูลแทน แต่ถ้าทายผิดก็ต้องเป็นซาอูลต่อไป
บทนำเรื่อง “นักฟุตบอลทีมหมูป่า”
ต้นฤดูฝนเดือนมิถุนายนปี 2018 หลังเสร็จจากการซ้อมฟุตบอล เด็กนักฟุตบอลทีมหมูป่า พร้อมกับโค้ชเอกปั่นจักรยานไปถ้ำหลวงเพื่อฉลองวันเกิดให้เพื่อนร่วมทีม พอถึงถ้ำหลวงพวกเขาต่างละจักรยานและสัมภาระไว้ปากทางเข้าถ้ำ พวกเขาเที่ยวเดินเข้าไปในถ้ำได้ประมาณหนึ่งชั่วโมงก่อนที่ฝนจะเริ่มตกหนัก น้ำท่วมฉับพลันไหลเข้าไปปิดปากทางเข้าถ้ำ ระดับน้ำสูงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ทีมหมูป่าจำเป็นต้องถอยร่นหนีน้ำเข้าไปเรื่อยๆ ในถ้ำลึก
วันที่หนึ่ง ที่สองผ่านไป ทีมหมูป่าติดอยู่ในถ้ำรายล้อมไปด้วยความมืด เพราะแบตตารี่ไฟฉายที่ติดตัวไปเริ่มหมด พวกเขาพยายามตั้งสติ และนั่งรวมตัวกันเพื่อรักษาความอบอุ่นของร่างกาย ควบคุมความคิดไม่ให้ตื่นตระหนกเพื่อช่วยลดการใช้ออกซิเจน และรักษากำลังของร่างกายไว้ พวกเขาดื่มน้ำจากหยดน้ำหินงอกหินย้อยประทังความหิวโหย
เมื่อพ่อแม่รู้ว่าลูกๆ ติดอยู่ในถ้ำ ทำให้การปฏิบัติการค้นหาและกู้ชีพเกิดขึ้น พวกเขาได้รับความช่วยเหลือจากหน่วยกู้ชีพทั้งของไทยและนานาชาติ อังกฤษ เบลเยี่ยม ออสเตรเลีย ลาว และจีน ส่งผู้เชี่ยวชาญเข้ามาช่วยเหลือท่ามกลางสายฝน และพื้นดินที่บัดนี้กลายเป็นโคลนเฉอะแฉะ พวกเขาใช้ความพยายามถึง 7 วันในการดำน้ำค้นหา 13 ชีวิตที่ติดอยู่ในถ้ำ เมื่อเจอตัวทีมหมูป่าและโค้ช ทีมหน่วยกู้ชีพยังต้องใช้เวลาถึง 3 วันในการลำเลียงเด็กๆ และโค้ชดำน้ำออกจากส่วนลึกของถ้ำที่พวกเขาใช้หลบภัย ก่อนที่มรสุมลูกต่อไปจะเข้ามา
เรื่องราวของชุมชนเล็กๆ ในจังหวัดเชียงราย ชายแดนเหนือสุดของไทยกลายเป็นเรื่องราวของความผูกพัน การเสียสละ มิตรภาพ ความร่วมมือของคนในชุมชน ภาครัฐ และหน่วยกู้ชีพนานาชาติ ส่งผลให้เรื่องราวของทีมหมูป่าในถ้ำหลวงถูกเผยแพร่ออกไปทั่วโลก
ทีมหมูป่าหลบหนีเข้าไปในถ้ำลึกเพื่อหนีภัยจากน้ำ แต่ที่ที่พวกเขาคิดว่าปลอดภัยก็เกือบเอาชีวิตของพวกเขาไป ในสมัยพระคัมภีร์ ดาวิดและพวกพ้องของเขาก็เคยใช้ถ้ำในการหลบซ่อนเพื่อรักษาชีวิตของพวกเขาจากการตามล่าของซาอูล วันนี้เรามาดูกันว่าจะมีเหตุการณ์อะไรที่น่าตื่นเต้นเกิดขึ้นในถ้ำที่ดาวิดหนีไปซ่อนตัวกัน
เล่าเรื่องจากพระคัมภีร์ (1 ซามูเอล 24:1-22, 26:1-25)
รูปภาพที่ 1 หลังจากซาอูลคิดที่จะฆ่าดาวิดทำให้ดาวิดต้องหลบหนีไปซ่อนตัวอยู่ในถิ่นทุรกันดาร วันหนึ่งซาอูลรู้ว่า ดาวิดหลบซ่อนอยู่ที่ไหน เขาจึงรีบคัดเลือกทหารฝีมือดีสามพันคนให้ไปค้นหาตัวดาวิด ระหว่างที่ทหารและซาอูลกำลังตามหาดาวิดอยู่นั้น ซาอูลเข้าไปในถ้ำเพื่อปลดทุกข์ ส่วนดาวิดกับพวกก็อยู่ในถ้ำนั้นและเห็นซาอูลเข้า หนึ่งในพวกของดาวิดเอ่ยขึ้นว่า “วันนี้แหละคือวันที่พระเจ้าได้มอบศัตรูไว้ในมือเจ้า จะทำอะไรกับเขาก็รีบทำเถิด” ดาวิดจึงย่องเข้าไปอย่างเงียบๆ แล้วเงื้อมือตัดชายเสื้อคลุมของซาอูลออกโดยที่ซาอูลไม่รู้ตัว แต่ต่อมาดาวิดรู้สึกผิดที่ทำอย่างนั้น ดาวิดพูดกับพรรคพวกของตนว่า “พระเจ้าไม่ได้อยากให้เราทำอย่างนี้กับกษัตริย์ที่พระเจ้าทรงเจิมไว้” ดาวิดพูดเช่นนี้เพื่อไม่ให้คนของเขาเข้าไปทำร้ายซาอูลอีก ดาวิดจึงออกมาจากถ้ำแล้วซบหน้าลงกราบซาอูลพร้อมกับทูลว่า “ทำไมท่านถึงฟังคำพูดของคนอื่นที่ว่าข้านั้นคิดร้ายต่อพระองค์ วันนี้พระองค์ได้เห็นแล้วว่าข้าสามารถฆ่าพระองค์ได้แต่ข้าก็ไม่ทำ ข้าได้ไว้ชีวิตพระองค์
รูปภาพที่ 2 วันนี้ข้าได้ตัดเสื้อของพระองค์แต่ข้าไม่ได้ฆ่าพระองค์ ยอมรับเถอะว่าข้าไม่ได้คิดร้ายต่อพระองค์ แต่พระองค์กลับไล่ล่าตามหาข้า ขอให้พระเจ้าเป็นผู้ตัดสินเถอะ ข้าจะไม่แตะต้องพระองค์เลย ขอให้พระเจ้าทรงแก้แค้นต่อสิ่งที่พระองค์ได้ทำต่อข้า ดั่งคำพูดที่ว่าการทำชั่วย่อมมาจากคนชั่ว ขอพระเจ้าทรงตัดสินเรื่องนี้และช่วยให้ข้ารอดพ้นจากกำมือของพระองค์เถิด” เมื่อดาวิดพูดจบ ซาอูลจึงพูดว่า “เจ้าเป็นคนชอบธรรมมากกว่าเราอีก เจ้าดีกับเราเหลือเกินแต่เรากลับทำสิ่งที่เลวร้ายกับเจ้า เจ้าได้ไว้ชีวิตเรา ไม่ฆ่าเราทั้งๆ ที่เจ้ามีโอกาส เพราะโดยปกติแล้วเมื่อเราพบศัตรูของเรา เราจะไม่มีทางปล่อยเขากลับไปอย่างปลอดภัยแน่ แต่เจ้าได้ไว้ชีวิตของเรา ขอพระเจ้าทรงมอบบำเหน็จแก่เจ้าเพื่อตอบแทนการกระทำของเจ้าในวันนี้ เรารู้ว่าวันหนึ่งเจ้าจะได้เป็นกษัตริย์แห่งอิสราเอล แต่วันนี้ขอให้เจ้าสาบานต่อเราว่าเจ้าจะไม่ทำลายพงศ์พันธุ์ของเรา” ดาวิดก็สาบานต่อซาอูลแล้วทั้งสองต่างแยกย้ายกันไป
แต่ต่อมาอีกไม่นานซาอูลก็เปลี่ยนใจ เมื่อพระองค์รู้ว่าดาวิดหลบซ่อนตัวอยู่ที่ภูเขา เขาจึงคัดเลือกทหารฝีมือดีสามพันคนอีกครั้งเพื่อค้นหาตัวดาวิด ซาอูลตั้งค่ายอยู่บนภูเขา เมื่อดาวิดเห็นกองทัพของซาอูลเขาจึงส่งคนไปสอดแนมและรู้ว่า ซาอูลกับท่านแม่ทัพกำลังนอนหลับอยู่ โดยมีทหารตั้งค่ายล้อมรอบเขาอีกทีหนึ่ง ดาวิดจึงถามพรรคพวกของเขาว่า “มีใครจะลงไปที่ค่ายกับเราบ้าง” หนึ่งในพวกของเขาอาสาตัวเองเพื่อจะไปที่ค่ายกับดาวิด
รูปภาพที่ 3 เขาทั้งสองไปที่ค่ายของซาอูลตอนกลางคืน เมื่อพบว่าพวกเขานอนหลับอยู่ เพื่อนของดาวิดก็พูดว่า “วันนี้พระเจ้าได้มอบศัตรูของท่านไว้ในมือท่านแล้ว ขอให้ข้าได้ใช้หอกแทงเขาเถิด” แต่ดาวิดบอกทหารของเขาว่า “อย่าทำร้ายเขาเลย เพราะเขาเป็นคนที่พระเจ้าได้เจิมไว้ พระเจ้ามีชีวิตอยู่แน่ฉันใด พระองค์จะเป็นคนเอาชีวิตของซาอูลเอง ขออย่าให้พวกเราเหยียดมือออกต่อสู้คนที่พระเจ้าเจิมไว้เลย” แล้วดาวิดจึงยื่นมือไปหยิบหอกและเหยือกน้ำที่อยู่ใกล้หัวของซาอูล แล้วจากไปโดยไม่มีใครรู้เห็นเลย
รูปภาพที่ 4 ดาวิดข้ามมาอยู่ด้านหนึ่งของภูเขาและตะโกนเรียกพวกทหารและอับเนอร์แม่ทัพของซาอูล จนอับเนอร์ตอบกลับไปว่า “เจ้าเป็นใครหรือ มาเรียกหากษัตริย์ทำไม” ดาวิดจึงตะโกนว่า “เจ้าเป็นทหารไม่ใช่หรือ ในอิสราเอลมีใครเก่งกว่าเจ้าไหม เพราะดูสิ! มีคนแอบเข้าไปจะทำร้ายกษัตริย์เจ้านายของเจ้าแต่ทำไมเจ้าไม่เฝ้าดูกษัตริย์ของเจ้าให้ดีๆ เจ้านี่ใช้ไม่ได้เลยจริงๆ มองดูรอบตัวเจ้าสิว่าหอกของกษัตริย์และเหยือกน้ำที่วางใกล้เศียรของพระองค์อยู่ไหนเล่า?” ในขณะที่ทั้งคู่โต้ตอบกัน ซาอูลจำเสียงของดาวิดได้ ซาอูลจึงพูดว่า “ดาวิดลูกชายของข้า นั่นเป็นเสียงของเจ้าใช่ไหม” ดาวิดจึงตอบว่า “ใช่แล้ว ข้าเอง” แล้วดาวิดก็พูดว่า “ทำไมพระองค์ทรงตามไล่ล่าข้าอีก ข้าทำอะไรผิดหรือ?” ซาอูลจึงตอบไปว่า “เราได้ทำบาปอีกแล้ว เราจะไม่ทำร้ายเจ้าอีกต่อไป เราทำตัวเหมือนคนโง่และทำบาปที่ใหญ่หลวงนัก” ดาวิดตอบกลับว่า “พระเจ้าทรงส่งท่านให้มาอยู่ในมือข้าวันนี้ แต่ข้ามิได้เหยียดมือออกต่อสู้คนที่พระเจ้าได้เจิมไว้ ขอให้พระเจ้าทรงเห็นคุณค่าชีวิตของข้าเหมือนอย่างที่ข้าเห็นคุณค่าชีวิตของพระองค์ และโปรดให้ข้าพ้นจากปัญหาทุกอย่างด้วยเถิด” ซาอูลจึงพูดว่า “ดาวิดลูกของเราเอ๋ย ขอพระเจ้าทรงอวยพรเจ้าเถิด หลายสิ่งหลายอย่างที่เจ้ากระทำจะสำเร็จเป็นแน่” แล้วดาวิดจึงจากไป ส่วนซาอูลก็เสด็จกลับพระราชวังของพระองค์
เพราะซาอูลเป็นกษัตริย์ที่ไม่เชื่อฟังพระเจ้า และจิตใจของซาอูลได้หันเหไปไม่ติดตามพระเจ้า พระเจ้าจึงตัดสิน ใจฉีกพงศ์พันธุ์ของเขาออกจากการเป็นกษัตริย์อิสราเอล หลังจากนั้นไม่นานซาอูลและพวกโอรสของพระองค์ออก ไปรบกับคนฟิลิสเตีย ในสนามรบกษัตริย์ซาอูลและโอรสทั้งสามพระองค์ พร้อมคนถืออาวุธและคนของพระองค์ทั้งสิ้นก็ตายเสียในวันเดียวกัน
แผนการแห่งความรอด
ดาวิดหลบซ่อนตัวเองจากคนที่คิดจะทำร้ายเขาอย่างซาอูล ทั้งๆ ที่เขาไม่ได้ทำอะไรผิด แต่เพราะความอิจฉาที่ซาอูลมีต่อดาวิดทำให้เขาคิดที่จะฆ่าดาวิด ในขณะ เดียวกัน ดาวิดก็มีทางเลือกและโอกาสหลายต่อหลายครั้งที่จะกำจัดซาอูลและจะได้ขึ้นเป็นกษัตริย์แทน แต่ดาวิดเลือกที่จะไม่ทำอย่างนั้นถึงแม้เขารู้ว่าเขาคือกษัตริย์ที่พระเจ้าเป็นผู้เลือกและเจิมไว้แล้วนั้น เขาเลือกที่จะรอเวลาของพระเจ้าและมอบการแก้แค้นไว้ให้กับพระเจ้า เช่นเดียวกับตอนที่พระเยซูถูกจับ พระองค์ไม่ตอบโต้คนที่เยาะเย้ย หรือมุ่งทำร้ายพระองค์ แต่กลับยอมสละพระองค์เอง ทนต่อการถูกตรึงบนไม้กางเขนในฐานะนักโทษทั้งๆ ที่พระองค์บริสุทธิ์ไม่มีความผิด และด้วยเหตุนี้เองพระเจ้าได้เปลี่ยนการร้ายกลับกลายเป็นแผนการไถ่ที่ยิ่งใหญ่ให้แก่มวลมนุษย์ การยอมตายของพระเยซูทำให้มนุษย์ซึ่งเป็นคนบาปอย่างครูและหนู มีหนทางที่จะได้รับการอภัยบาปและได้รับความรอดผ่านทางพระเยซู
พระคัมภีร์เกี่ยวข้องกับหนูอย่างไร
ในชีวิตของหนูเรามีทางเลือกเสมอ หนูเคยตกอยู่ในสถานการณ์ที่หนูต้องเลือกไหม เช่น เวลาเราเจอเพื่อนที่โรงเรียนพูดจาไม่ดีใส่เรา เรามีทางเลือกที่จะตบตีเขาเป็นการแก้แค้น หรือเราจะเลือกที่จะอดทนไม่ตอบโต้ ถ้าเราเจอโทรศัพท์ตกอยู่บนพื้น เรามีทางเลือกที่จะแอบเก็บโทรศัพท์ไว้ใช้เป็นของตัวเองหรือเลือกที่จะสัตย์ซื่อเอาไปให้คุณครูและคืนให้กับเจ้าของ ในแต่ละวันเราสามารถเลือกที่จะทำในสิ่งที่ถูกต้องหรือทำตามใจของตัวเอง หนูสามารถเลือกที่จะให้อภัยแทนการแก้แค้น เลือกที่จะเป็นคนที่ซื่อสัตย์แทนเลือกการคดโกงเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง ขอให้หนูเอาดาวิดเป็นตัวอย่าง เขาเลือกที่จะทำในสิ่งที่ถูกต้องและไม่เมื่อยล้าในการทำดี และพระองค์จะทรงตอบแทนหนูแน่นอนในเวลาอันสมควร
รูปภาพประกอบ
ข้อกำหนดในการใช้บทเรียนรูปภาพ เราต้องการให้บทเรียนและรูปภาพประกอบเป็นพระพรสำหรับทุกท่าน ดังนั้นจึงขอความร่วมมือจากท่านที่จะไม่นำไปใช้ในเชิงพาณิชย์ หรือใช้ในทางที่เบี่ยงเบนไปจากวัตถุประสงค์ของเรา
คำถามอภิปราย
(คำถามไม่เพียงทบทวนเนื้อหาจากบทเรียนเท่านั้น แต่ช่วยกระตุ้นให้เด็กได้คิดใคร่ครวญประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง บางคำถามอาจไม่มีคำตอบผิดหรือถูก แต่ช่วยให้เกิดการอภิปรายกันในห้องเรียน ในขณะเดียวกันเด็กจะได้เรียนรู้ในการแสดงความคิดเห็นและรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่นด้วย)
- หนูจำได้ไหมว่าทำไมซาอูลถึงไม่ชอบดาวิด?
- ดาวิดตอบสนองอย่างไรเมื่อเขาตัดชายเสื้อของซาอูลไป?
- มีเหตุการณ์อะไรบ้างที่ดาวิดไว้ชีวิตของซาอูล ทั้งๆ ที่เขาสามารถที่จะฆ่าซาอูลได้?
- เหตุผลอะไรที่ดาวิดไม่คิดจะฆ่าซาอูลเมื่อมีโอกาส?
- หนูคิดว่าสิ่งที่ดาวิดทำเป็นสิ่งที่ถูกต้องหรือโง่เขลา? ทำไม?
- หนูได้เรียนรู้อะไรจากชีวิตของดาวิดในบทเรียนนี้?
- ในชีวิตประจำวันมีอะไรบ้างที่หนูสามารถเลือกเอาชนะความชั่วด้วยความดี?
กิจกรรม
“มาแข่งกัน...ตอบคำถาม”
สิ่งที่ต้องเตรียม
- สิ่งของต่างๆ ประมาณ 20 ชิ้น อาจจะหนัก เบา ใหญ่ เล็กผสมกัน เช่น พระคัมภีร์, สมุดเพลง, กล่อง,กระเป๋า, กระทะ, แก้วน้ำพลาสติก, ของเล่น, ตุ๊กตา, หมอน, ลูกบอลต่างๆ, ขวดน้ำ, ส้ม และอื่นๆ อีกมากมาย
วิธีทำ
- วางอุปกรณ์ทั้งหมดที่เตรียมมาไว้บนโต๊ะ
- แบ่งเด็กออกเป็นสองทีม ให้แต่ละทีมเลือกเด็ก 1 คนไว้ถือของเมื่อทีมของตนตอบคำถามถูกต้อง
- แข่งกันตอบคำถามให้ถูกต้อง ทีมไหนยกมือก่อนและตอบถูกจะเป็นทีมที่มีสิทธิ์เลือกสิ่งของหนึ่งชิ้น ให้ทีมของตนถือ เด็กสามารถใช้มือ เท้า เสื้อผ้าที่สวมใส่อยู่ในการแบกสิ่งของให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
- แต่ถ้าทีมไหนตอบผิด จะไม่มีโอกาสเลือกของ
- ตอบคำถามทบทวนบทเรียนทั้งหมด หากเด็กทำของชิ้นใดหล่นถือว่าเสียคะแนนจากของชิ้นนั้นไป ทีมไหนสามารถถือของได้มากที่สุดเป็นฝ่ายชนะ