T I P S สำหรับคุณครู
“จงฝึกเด็กในทางที่เขาควรจะเดินไป” จากสุภาษิต 22:6 แท้จริงมีความหมายว่า ฝึกให้เขาเป็นตามลักษณะที่พระเจ้าสร้างเขาขึ้นมา หรืออีกนัยหนึ่งคือตามลักษณะนิสัย ความสามารถและพรสวรรค์ที่พระเจ้าสร้างเขา ในขณะที่ครูสอนเด็กในการสร้างคุณลักษณะนิสัยที่ดีที่พระเจ้าพอใจ เวลาเดียวกันครูก็ควรเข้าใจว่าเด็กแต่ละคนมีความแตกต่างกัน มีทักษะความสามารถ ความชอบแตกต่างกันไป ครูควรปฏิบัติกับเด็กแต่ละคนด้วยความเข้าใจความแตกต่างของเด็ก ไม่เห็นว่าเป็นข้อด้อยหรือเอาไปเปรียบเทียบกัน แต่ให้เห็นว่าบางอย่างอาจเป็นลักษณะพิเศษที่พระเจ้าใส่ไว้ในตัวเด็ก หากครูมีท่าทีที่ดีเช่นนี้ก็จะสามารถช่วยสร้างความมั่นใจและให้เด็กก้าวข้ามการเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่นได้
เล่าเรื่องจากพระคัมภีร์ (1 ซามูเอล 1:1-2:21)
รูปภาพที่ 1 ชายคนหนึ่งชื่อเอลคานาห์ เขามีภรรยาสองคน คนหนึ่งชื่อนางฮันนาห์ อีกคนหนึ่งชื่อนางเปนินนาห์ นางนั้นมีบุตรหลายคนแต่นางฮันนาห์ไม่มีบุตร นางฮันนาห์ทุกข์ใจมีปัญหาหนักอกที่ไม่สามารถอธิบายให้ใครเข้าใจเธอได้ ในวันที่เอลคานาห์เดินทางไปนมัสการ และถวายเครื่องบูชาแด่พระเจ้ากับครอบครัวของเขา ทุกครั้งที่เขาถวายสัตวบูชา เขาจะให้ส่วนแบ่งเนื้อแก่นางเปนินนาห์และพวกบุตรชายบุตรหญิงทุกคนของนาง แต่เขากลับแบ่งให้นางฮันนาห์ถึงสองเท่า เพราะเขารักนางฮันนาห์มาก ถึงแม้ ว่าพระเจ้าจะปิดครรภ์ของนางฮันนาห์ก็ตาม เมื่อเปนินาห์ เห็นดังนั้น เธอรู้สึกอิจฉานางฮันนาห์ เธอก็ยั่วโมโหและซ้ำเติมนางฮันนาห์อย่างรุนแรงทำให้นางเสียใจที่พระเจ้าทรงปิดครรภ์ของนาง เหตุการณ์เป็นอย่างนี้ปีแล้วปีเล่า ทุกครั้งที่นางฮันนาห์มายังพระนิเวศ นางเปนินนาห์ก็จะซ้ำ เติมเยาะเย้ยนางจนนางร้องไห้ และไม่ยอมรับประทานอาหาร เอลคานาห์สามีของนางจึงถามนางว่า “ฮันนาห์ เธอร้องไห้ทำไม? ทำไมเธอไม่ยอมรับประทานอาหาร? ทำไมเธอถึงโศกเศร้า? สำหรับเธอ ฉันไม่ดีกว่าบุตรชายสิบคนหรือ?”
รูปภาพที่ 2 หลังจากที่พวกเขาได้รับประทานอาหารและดื่มแล้ว นางฮันนาห์ก็ลุกขึ้น เอลีปุโรหิตนั่งอยู่บนเก้าอี้ข้างเสาประตูพระวิหาร นางเสียใจมากจึงอธิษฐานต่อพระเจ้า และร้องไห้อย่างหนัก นางพูดว่า “ข้าแต่พระเจ้า หากพระองค์ทรงเห็นความทุกข์ใจของผู้รับใช้ของพระองค์ และระลึกถึงข้า หากไม่ทรงลืมผู้รับใช้ของพระองค์และจะประทานบุตรชายให้สักคน ข้าพระองค์จะถวายเขาแด่พระองค์ตลอดชีวิตของเขา” ขณะที่นางยังวิงวอนอยู่นั้น เอลีก็สังเกตดูปากของนางฮันนาห์ที่พึมพำอยู่ ริมฝีปากของนางขยับแต่ไม่ได้ยินเสียงของนาง เอลีจึงคิดว่านางเมา เอลีจึงพูดกับนางว่า “เธอจะเมาไปนานสักเท่าใด? จงละทิ้งเหล้าองุ่นเถอะ” แต่นางฮันนาห์ตอบว่า “ไม่ใช่เช่นนั้นค่ะ ดิฉันเป็นหญิงที่ทุกข์ใจยิ่งนัก ดิฉันไม่ได้ดื่มเหล้าองุ่นหรือของมึนเมา แต่ดิฉันกำลังระบายความในใจของดิฉันต่อองค์พระผู้เป็นเจ้า ขออย่าเข้าใจผิดว่า ดิฉันเป็นหญิงเลว ที่ดิฉันพูดตลอดมานั้น ก็พูดด้วยความกระวนกระวายและความเศร้าใจมาก” แล้วเอลีก็ตอบว่า “ไปดีมีสุขเถิด ขอให้พระเจ้าประทานตามคำขอที่เจ้าได้ทูลขอเถิด” แล้วนางก็กลับ ไปรับประทานอาหาร และใบหน้าของนางก็ไม่โศกเศร้าอีกต่อไป
รูปภาพที่ 3 วันรุ่งขึ้นพวกเขาลุกขึ้นแต่เช้าและนมัสการพระเจ้า แล้วก็เดินทางกลับไปบ้าน และเอลคานาห์ได้หลับนอนกับนางฮันนาห์ภรรยาของเขา และพระเจ้าก็ทำให้นางตั้งครรภ์ และต่อมาเมื่อถึงเวลาที่กำหนดนางฮันนาห์ได้คลอดบุตรชายคนหนึ่ง และนางให้ชื่อเด็กนั้นว่าซามูเอล เพราะนางกล่าวว่า“ดิฉันทูลขอมาจากพระเจ้า”ซึ่งซามูเอล แปลว่า “พระเจ้าทรงฟัง”
ครั้นต่อมาทุกคนในครอบครัวของเอลคานาห์ได้ขึ้นไปถวายเครื่องบูชาประจำปีแด่พระเจ้า ตามที่ได้ปฏิญาณไว้ แต่นางฮันนาห์ไม่ได้ขึ้นไปด้วย เพราะนางบอกว่า จะรอให้ซามูเอลหย่านมก่อน แล้วนางจะพาลูกชายคนนี้ไปเข้าเฝ้าต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้า และจะให้เขาอยู่ที่นั่นตลอดไป สามีของนางก็เห็นด้วยกับนาง นางจึงอยู่บ้านเลี้ยงลูกจนเขาหย่านม
รูปภาพที่ 4 เมื่อลูกของเขาหย่านม นางก็พาเขาขึ้นไปพร้อมกับวัวผู้อายุสามปีหนึ่งตัว แป้ง 10 กิโลกรัมและเหล้าองุ่นหนึ่งถุงหนัง และนางก็นำเขามาที่พระนิเวศ และเด็กนั้นก็ยังเล็กอยู่ แล้วพวกเขาก็ฆ่าวัวผู้ตัวนั้นและนำเด็กมาหาเอลี นางฮันนาห์กล่าวว่า “ท่านเจ้าข้า ท่านมีชีวิตอยู่แน่ฉันใด ดิฉันเองคือหญิงที่เคยมายืนอธิษฐานต่อพระเจ้า ดิฉันทูลขอเด็กคนนี้ และพระเจ้าก็ได้ประทานตามคำทูลขอของดิฉัน เพราะฉะนั้นดิฉันนำเขามาถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า เพื่อเขาจะเป็นขององค์พระผู้เป็นเจ้าตลอดชีวิตของเขา” และเขาก็นมัสการพระเจ้าที่นั่น แล้วนาง ฮันนาห์ก็อธิษฐานสรรเสริญองค์พระผู้เป็นเจ้า ไม่มีใครสามารถเปรียบกับพระองค์ได้ เพราะพระยาห์เวห์เป็น พระเจ้าผู้รู้ทุกสิ่ง และควบคุมทุกอย่าง พระองค์ทรงช่วยผู้ที่อ่อนแอให้มีกำลัง คนที่ยากจนขัดสนจากกองขี้เถ้าให้ได้ รับเกียรติ และหญิงที่เป็นหมันอย่างนางให้มีบุตร
เด็กน้อยซามูเอลก็ปรนนิบัติรับใช้ต่อพระเจ้า ภายใต้การดูแลของเอลี เขาสวมชุดด้วยเอโฟดผ้าป่าน ซึ่งเป็นชุดไว้สวมเมื่อปรนนิบัติรับใช้ในพระวิหาร นางฮันนาห์มารดาก็เย็บเสื้อคลุมตัวเล็กๆ นำมาให้เขาทุกๆปี เมื่อนางขึ้นไปพร้อมกับสามีเพื่อถวายเครื่องบูชาที่นั่น แล้วเอลีก็อวยพรเอลคานาห์และนางฮันนาห์ว่า “ขอพระเจ้าประทานบุตรอีกหลายคนจากหญิงคนนี้ แทนที่บุตรคนที่นางเคยทูลขอและได้ถวายไว้ปรนนิบัติรับใช้พระเจ้า” แล้วพวกเขาก็กลับ ไปยังบ้านของพวกเขา และพระเจ้าทรงเยี่ยมเยียนฮันนาห์ และนางก็ตั้งครรภ์คลอดบุตรเป็นชายสามคน บุตรหญิงสองคน ส่วนเด็กน้อยซามูเอลก็เติบโตขึ้นรับใช้ในวิหารต่อหน้าพระพักตร์พระเจ้า
แผนการแห่งความรอด
พระยาห์เวห์เป็นพระเจ้าผู้รู้ทุกสิ่งและควบคุมทุกอย่าง ในพระคัมภีร์กล่าวว่านางฮันนาห์เป็นหมัน ไม่มีบุตร ทำให้นางทุกข์ใจและร้องวิงวอนทูลขอบุตรจากพระเจ้า ความทุกข์ใจนี้เองที่ทำให้นางปฏิญาณว่านางจะถวายบุตรของนางให้รับใช้ในพระนิเวศของพระเจ้าเพราะนางรู้ว่าบุตรที่จะเกิดมานั้นเป็นโดยฤทธิ์เดชของพระเจ้า ในขณะเดียวกันที่เอลีปุโรหิตผู้รับใช้ของพระเจ้าก็เริ่มมีอายุมากขึ้น และพระเจ้ามีแผนการที่จะเลือกใช้ลูกของนางฮันนาห์คือ ซามูเอลให้เป็นผู้นำของชาวอิสราเอลต่อไป หนูเห็นแผนการของพระเจ้าในชีวิตของซามูเอลไหม? นางฮันนาห์เองไม่รู้เลยว่า ลูกชายที่พระเจ้าประทานให้นั้นจะเติบโตเป็นผู้เผยพระวจนะ ผู้พูดแทนพระเจ้า เป็นผู้วินิจฉัยปกครองชนอิสราเอลให้ดำเนินตามทางของพระเจ้า และยังเป็นผู้ที่เจิมแต่งตั้งกษัตริย์ของอิสราเอลในเวลาต่อมา
พระคัมภีร์เกี่ยวข้องกับหนูอย่างไร
หนูเคยอธิษฐานขออะไรสักอย่างกับพระเจ้าเหมือนอย่างนางฮันนาห์ไหม? หนูอธิษฐาน กับพระเจ้าว่าอย่างไร? นางฮันนาห์ได้ทูลขอความต้องการของนางกับพระเจ้า โดยการอธิษฐานและการวิงวอน คำอธิษฐานของฮันนาห์มีพลังถึงแม้จะออกมาไม่เป็นคำหรือคนทั่วไปฟังแล้วไม่เข้าใจ
สำหรับเด็กที่เชื่อพระเยซูแล้ว วันนี้หนูมีเรื่องที่หนูกังวลใจ กลัว ต้องการ หรือหนูมีเรื่องที่หนูอยากจะขอบพระคุณพระเจ้าไหม? หนูสามารถอธิษฐานทูลขอวิงวอนกับพระเจ้าได้ทุกที่ ทุกเวลา ชื่อซามูเอล แปลว่า “พระเจ้าทรงฟัง” ใช่แล้ว พระเจ้าทรงฟังคำอธิษฐานของหนู พระองค์ไม่เคยละเลยคำอธิษฐานของลูกๆของพระองค์แม้สักคนเลย พระเจ้าได้ยิน เข้าใจ และจะตอบคำอธิษฐานของหนูตามแผนการอันดีของพระองค์
สำหรับเด็กที่ยังไม่เคยต้อนรับพระเยซู อิสยาห์ 59:2 กล่าวว่าบาปของมนุษย์ได้ทำให้หนูถูกแยกออกจากพระเจ้า และเพราะบาปนี้ทำให้พระเจ้าหันหน้าของพระองค์ไปเสียและไม่ฟังคำอธิษฐานของหนู หากหนูต้องการที่จะกลับคืนดีกับพระเจ้า เป็นลูกของพระองค์เพื่อพระองค์จะฟังคำอธิษฐานของหนู หนูจำเป็นต้องยอมรับว่าหนูเป็นคนบาป และช่วยเหลือตัวเองให้พ้นจากบาปกรรมไม่ได้ และเชื่อว่าพระเยซูยอมเสียสละชีวิตของพระองค์ ตายบนไม้กางเขนเพื่อรับโทษบาปแทนหนู และให้หนูสามารถกลับคืนดีกับพระเจ้า มีสิทธิ์เป็นลูกของพระองค์และเป็นครอบครัวของพระองค์
ข้อกำหนดในการใช้บทเรียนรูปภาพ เราต้องการให้บทเรียนและรูปภาพประกอบเป็นพระพรสำหรับทุกท่าน ดังนั้นจึงขอความร่วมมือจากท่านที่จะไม่นำไปใช้ในเชิงพาณิชย์ หรือใช้ในทางที่เบี่ยงเบนไปจากวัตถุประสงค์ของเรา
คำถามอภิปราย
(คำถามไม่เพียงทบทวนเนื้อหาจากบทเรียนเท่านั้น แต่ช่วยกระตุ้นให้เด็กได้คิดใคร่ครวญประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง บางคำถามอาจไม่มีคำตอบผิดหรือถูก แต่ช่วยให้เกิดการอภิปรายกันในห้องเรียน เพื่อเด็กๆ จะได้เรียนรู้ในการแสดงความคิดเห็นและรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่นในเวลาเดียวกัน)
- เอลคานาห์มีภรรยากี่คน?** และภรรยาของเขาชื่ออะไรบ้าง?
- ทำไมนางฮันนาห์ถึงโศกเศร้า ร้องไห้ และไม่ยอมรับประทานอาหาร?
- เมื่อนางฮันนาห์อธิษฐานทูลขอกับพระเจ้า หนูคิดว่านางฮันนาห์อธิษฐานอย่างไรถึงทำให้เอลีคิดว่านางเมา?
- นางฮันนาห์ได้ทูลขอและสัญญาอะไรกับพระเจ้า?
- หนูคิดว่าเมื่อนางฮันนาห์พาซามูเอลไปถวายที่พระวิหาร นางดีใจหรือเสียใจ? ทำไมหนูถึงคิดอย่างนั้น?
- หนูได้เรียนรู้อะไรบ้างจากคำอธิษฐานของนางฮันนาห์?
- อะไรที่ทำให้พระเจ้าเมินหน้าไม่ฟังคำอธิษฐานของเรา?
**(อาจจะมีคำถามจากเด็กๆ ว่าผู้ชายมีภรรยาสองคนได้ใช่ไหม เพราะพระคัมภีร์ยังมีตัวอย่างให้เราเห็นว่าเอลคานาห์มีภรรยาสองคน ในพระคัมภีร์มีการกล่าวถึงบุคคลสำคัญในพระคัมภีร์หลายคนที่มีภรรยาหลายคน แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเมื่อพระคัมภีร์กล่าวถึงเราจะถือเป็นหลักปฏิบัติหรือหลักคำสอน หลายครั้งประวัติศาสตร์มีไว้เพื่อเราจะเรียนรู้และหลีกเลี่ยงความผิดพลาดจากบุคคลในอดีต ผลเสียที่เกิดขึ้นโดยที่เราไม่ต้องลงมือกระทำเอง พระเจ้าสร้างสถาบันครอบครัวเป็นครั้งแรกในสวนเอเดน สร้างหญิงหนึ่งคนเพื่อชายหนึ่งคน เพื่อเขาจะมีลูกดกและปกครองสรรพสิ่งที่พระเจ้าสร้าง แต่ด้วยความบาปของมนุษย์ ทำให้สถาบันครอบครัวของมนุษย์บูดเบี้ยวไป ซึ่งเราเองก็สามารถเห็นผลเสียมากมายที่ตามมาจากการที่ผู้ชายเลือกมีภรรยาหลายคน เช่น การแก่งแย่งชิงดี ความอิจฉาริษยาระหว่างภรรยา และลูกๆ ต่างมารดา ฯลฯ)
