เมื่อกลับบ้านวันนี้ หนูจะได้
- เข้าใจว่าพระเจ้ามีแผนการที่ดีต่อมนุษย์เสมอ แม้สถานการณ์จะดูย่ำแย่ก็ตาม
- รู้ว่าความอิจฉาริษยา ความเกลียดชังเป็นรากขมขื่นที่สามารถทำลายชีวิตคนได้
- สามารถอธิษฐานขอให้พระเจ้าช่วยหนูที่จะรักพี่น้อง และอดทนต่อกันและกัน
ข้อท่องจำ
“ดูเถิด ซึ่งพี่น้องอาศัยอยู่ด้วยกันเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ก็เป็นการดี และน่าชื่นใจมากสักเท่าใด”-สดุดี 133:1
T I P S สำหรับคุณครู
การทะเลาะเบาะแว้งระหว่างพี่น้องและเพื่อนที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกัน ส่วนใหญ่มีรากมาจากความอิจฉาริษยา คุณครูควรใช้โอกาสที่มีในห้องเรียนที่จะช่วยให้เด็กๆ เกิดความมั่นใจและชอบตัวของเขาเองด้วยการชมเชยหรือย้ำเตือนความจริง (ให้เป็นคำชมเชยที่สมเหตุสมผล ไม่ใช่คำเยินยอ) เช่น
- ครูชอบที่หนูทำ ............
- หนูมีเสียงใสจัง หรือ เวลายิ้มหน้าตาหนูน่ารักมาก
- ครูรักหนู และพระเจ้ารักหนูด้วย หนูเป็นคนพิเศษจริงๆ เพราะ ..........
เกม “พลุลูกโป่ง”
สิ่งที่ต้องเตรียม
- ลูกโป่งสำหรับเด็กทุกคน
วิธีเล่น
- แจกลูกโป่งให้เด็กทุกคนๆ ละ 1 ใบ แล้วให้เด็กยืนเรียงแถวหน้ากระดานที่ครูได้ขีดเส้นเริ่มต้นไว้
- ให้สัญญาณครั้งแรกเด็กจะต้องเป่าลูกโป่งให้ใหญ่ที่สุด
- สัญญาณครั้งที่สองให้เด็กหยุดเป่าลูกโป่ง และบีบปากลูกโป่งไว้กันไม่ให้ลมออก
- สัญญาณครั้งที่สามให้เด็กปล่อยลูกโป่งที่เป่าไปข้างหน้า ลูกโป่งของใครที่ไปได้ไกลที่สุดคือผู้ชนะ
- ครูเสนอให้เด็กในชั้นเรียน แสดงน้ำใจนักกีฬาคือยินดีกับผู้ชนะ
บทนำเรื่อง
(โครงเรื่องจากชุมนุมนิทานไทย โดยชัย เรืองศิลป์)
ครูคนหนึ่งเลี้ยงลูกศิษย์สองคนไว้ที่บ้านของตน ครูคนนี้ชอบให้ลูกศิษย์ทั้งสองนวดขาทุกวัน คนหนึ่งเอาน้ำมันนวดขาข้างขวา อีกคนหนึ่งเอาน้ำมันนวดขาข้างซ้าย ศิษย์ทั้งสองคนมักอิจฉาริษยากันทำให้เขาทะเลาะเบาะแว้งกันเป็นประจำจนครูรู้สึกรำคาญ
วันหนึ่งครูใช้ให้ศิษย์ที่มีหน้าที่นวดขาข้างซ้ายไปทำธุระที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ถึงเวลานวดขาครูจึงใช้ให้ศิษย์ที่อยู่บ้านนวดขาทั้งสองข้างให้ แต่ศิษย์นั้นกลับไม่ยอมนวด อ้างว่า “ขาข้างซ้ายของครูเป็นศัตรูของผม ผมไม่ยอมนวดเป็นแน่” ครูจึงพูดกับศิษย์ว่า “แล้วกัน จะเป็นขาข้างขวาหรือข้างซ้ายมันก็เป็นขาของข้า อย่าไปถือเป็นขาของเอ็งหรือของคนที่เอ็งเกลียดซิ”
แต่จะพูดอย่างไร ลูกศิษย์ก็ดื้อไม่ยอมนวดให้ เมื่อครูเอ่ยขอร้องอีก ศิษย์จึงคว้าขาข้างซ้ายของครูหักเสียด้วยความโกรธ เมื่อศิษย์อีกคนหนึ่งกลับมาจากหมู่บ้าน เห็นขาครูหักและรู้ว่าหักด้วยเหตุใด ก็เกิดความโกรธแค้น ร้องตะโกนว่า “หนอยแนะ เวลาข้าไม่อยู่ มันก็มาหักขาของข้าเสีย ทำอย่างนี้ใช้ไม่ได้ต้องหักขาของมันเสียบ้าง” ว่าแล้วก็คว้าขาของครูหักเสียอีกข้างหนึ่ง
นี่แหละ ความอิจฉาริษยาที่สามารถทำให้คนเราทำร้ายกันได้
เล่าเรื่องจากพระคัมภีร์
ในเวลาที่ยาโคบเดินทางกลับมาคืนดีกับเอซาว เขามีบุตรชายทั้งหมด 11 คนซึ่งเกิดจากนางเลอาห์ นางราเชลและสาวใช้อีกสองคน ซึ่งลูกชายคนที่ 11 นั้นชื่อว่าโยเซฟ และเป็นที่รักของยาโคบมากเพราะเป็นลูกชายที่เกิดจากนางราเชล ภรรยาที่เขารัก หลังจากนั้นไม่นาน นางราเชลก็เสียชีวิตจากการคลอดลูกชายอีกคนหนึ่งให้แก่ยาโคบ และเขาตั้งชื่อเด็กนั้นว่าเบนยามิน
ภาพที่ 1 ครอบครัวของยาโคบอาศัยอยู่ในแคว้นคานาอัน โยเซฟและพี่ชายต่างมารดาก็อาศัยอยู่ร่วมกัน โยเซฟมีนิสัยขี้ฟ้อง ชอบเอาความผิดของพวกพี่ชายมาเล่าให้พ่อฟัง ส่วนพ่อก็รักโยเซฟมากกว่าลูกชายคนอื่นๆ จึงทำเสื้อยาวมีแขนตัวใหม่ให้แก่โยเซฟ เมื่อพวกพี่ชายเห็นดังนั้นก็อิจฉาและเกลียดชังโยเซฟและไม่ยอมคบหาด้วย
ภาพที่ 2 วันหนึ่งโยเซฟฝันว่า พวกเขากำลังมัดฟ่อนข้าวอยู่ในนา แล้วทันใดนั้นฟ่อนข้าวของโยเซฟก็ตั้งตรง และฟ่อนข้าวของพวกพี่ชายทั้งหมดมาแวดล้อมกราบไหว้ฟ่อนข้าวของเขา โยเซฟจึงไปเล่าความฝันของเขาให้พวกพี่ชายฟังทำให้พวกพี่ชายของเขายิ่งเกลียดชังโยเซฟมากขึ้นอีก ต่อมา โยเซฟก็ฝันอีก คราวนี้เขาเห็นดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และดาวสิบเอ็ดดวงกำลังกราบไหว้ตัวเขา เมื่อเขาเล่าความฝันนี้ให้พ่อและพี่ชายฟัง พ่อของเขาก็สงสัยและเก็บไว้ในใจ ส่วนพี่ชายก็ยิ่งเพิ่มความชังในตัวโยเซฟขึ้นไปอีก
วันหนึ่งยาโคบผู้เป็นพ่อส่งโยเซฟให้ไปดูพวกพี่ชายที่เขาออกไปเลี้ยงฝูงแพะแกะว่าเป็นอย่างไรบ้าง (สำหรับครู—จากที่ราบเฮโบรนที่ยาโคบอาศัยอยู่ ถึงเมืองเชเคมที่พวกพี่ชายไปเลี้ยงแกะห่างกันเกือบ 100 กม. และเมื่อโยเซฟไปถึงพวกพี่ชายก็เลยไปเมืองโดธานซึ่งเลยขึ้นไปทางเหนืออีกหลายสิบกิโลเมตร)ในขณะที่โยเซฟเดินทางมาหาพวกพี่ชายๆ เห็นโยเซฟแต่ไกล ด้วยความชังและความอิจฉาก็วางแผนที่จะฆ่าโยเซฟแล้วทิ้งลงไปไว้ในบ่อแห่งหนึ่ง และจะโกหกว่าสัตว์ร้ายมาทำร้ายและฆ่าโยเซฟเสีย และคิดเย้ยว่า “ดูว่าความฝันที่โยเซฟบอกจะเป็นจริงได้อย่างไร ถ้าเจ้าตัวตายเสียก่อน” ฝ่ายรูเบนซึ่งเป็นพี่ชายคนโตเกิดจากนางเลอาห์อยากจะช่วยโยเซฟและไม่อยากให้พวกพี่ชายฆ่าน้องตัวเอง จึงบอกกับเขาว่า “เราอย่าฆ่ามันเลย อย่าทำให้โลหิตไหล จงทิ้งมันในบ่อนี้ในถิ่นทุรกันดาร อย่าแตะต้องน้องเลย” ที่เขาพูดเช่นนี้ก็ด้วยคิดว่าจะกลับมาช่วยน้องในภายหลังและส่งเขากลับไปหาพ่อ
ภาพที่ 3 เมื่อโยเซฟมาถึงพวกพี่ชายก็จับโยเซฟถอดเสื้อตัวใหม่ที่พ่อทำให้ออก แล้วโยนเขาลงไปในบ่อน้ำซึ่งไม่มีน้ำอยู่ ขณะที่พวกเขานั่งรับประทานอาหารอยู่ พวกเขาก็เห็นขบวนบรรทุกสินค้าของคนอิชมาเอลและคนมีเดียน มีฝูงอูฐบรรทุกยางไม้ พิมเสนและชะมดกำลังเดินทางไปอียิปต์ ยูดาห์(ลูกชายอีกคนหนึ่งของนางเลอาห์) ก็มีความคิดว่าแทนที่จะฆ่าโยเซฟน้องต่างมารดาของตัวเอง พวกเขาน่าจะขายโยเซฟให้กับพวกพ่อค้านี้ เพื่อที่จะกำจัดโยเซฟไป และไม่ต้องทำความผิดโดยการฆ่าน้องตัวเอง
ภาพที่ 4 เมื่อพวกพี่ชายตกลงกันได้จึงฉุดโยเซฟขึ้นมาจากบ่อ แล้วขายโยเซฟให้แก่พ่อค้าเป็นเหรียญเงิน 20 เชเขล พ่อค้าชาวอิชมาเอลและคนมีเดียนก็พาโยเซฟไปยังอียิปต์
ในเวลานั้นเอง รูเบนพี่ชายคนโตไม่อยู่ในเหตุการณ์ เมื่อกลับมาพบว่าน้องโยเซฟได้ถูกขายไปแล้ว ก็เสียใจฉีกเสื้อผ้าของตนเองและกังวลกลัวว่าจะบอกพ่อของตนว่าอย่างไร พวกเขาจึงเอาเสื้อผ้าของโยเซฟมา แล้วฆ่าแพะผู้ตัวหนึ่งและจุ่มเสื้อของโยเซฟนั้นลงในเลือด แล้วส่งเสื้อนั้นไปให้พ่อของพวกตนบอกว่า “พวกเราได้พบเสื้อตัวนี้ ขอพ่อจงพิจารณาดูว่าใช่เสื้อลูกของพ่อหรือไม่” เมื่อยาโคบพิจารณาดูแล้วรู้ว่าเป็นเสื้อที่เขาทำให้โยเซฟเองก็คิดว่า สัตว์ร้ายได้มาทำร้ายและฆ่าโยเซฟไปเสียแล้ว เขาจึงฉีกเสื้อผ้าร้องไห้คร่ำครวญและไว้ทุกข์ให้กับลูกชายสุดที่รักเป็นเวลาหลายวัน ไม่ว่าลูกชาย ลูกสาวหรือว่าใครมาปลอบโยน ยาโคบก็ไม่ยอมรับและทำใจไม่ได้ ด้วยว่าความเศร้าโศกครั้งนี้จะติดตามเขาไปจนวันตายทีเดียว
แผนการแห่งความรอด
ความฝันของโยเซฟเป็นความฝันที่พระเจ้าประทานให้เขา ซึ่งกำลังเล่งถึงเหตุการณ์ในอนาคตที่จะเกิดขึ้นกับเขาและครอบครัว รวมไปถึงชนชาติของเขา ด้วยความอิจฉาริษยาของพี่น้องทำให้พวกเขาพยายามทำลายความฝันนั้น และยับยั้งไม่ให้มันเป็นความจริงขึ้นมาได้ แต่ด้วยการครอบครองของพระเจ้า และฤทธานุภาพนั้น พระองค์สามารถเปลี่ยนสถานการณ์ที่เลวร้ายให้กลับกลายเป็นสิ่งที่พระองค์วางแผนไว้ได้ ไม่มีอะไรที่สามารถยับยั้งแผนการที่พระเจ้าวางไว้สำหรับที่จะช่วยมนุษย์ให้รอดพ้นจากความตาย และความบาปได้ เราจะเห็นความจริงนี้ชัดขึ้นในบทเรียนต่อๆ ไป
พระคัมภีร์เกี่ยวข้องกับหนูอย่างไร
ภาพที่ 5 ครอบครัวของหนู มีพี่น้องกี่คน? หนูเคยคิดอิจฉาพี่หรือน้องที่คุณพ่อคุณแม่ซื้อของให้เขา แต่ไม่ให้หนูไหม? หรือคิดว่าพ่อกับแม่รักคนอื่นมากกว่ารักหนู ตอนนี้หนูเห็นแล้วว่าการอิจฉาริษยาสามารถนำไปสู่ความเกลียดชัง และการกระทำที่ร้ายแรงได้ สิ่งที่หนูควรทำคือ
- จดจำไว้ว่าพระเจ้ารักหนู และหนูเป็นคนที่ถูกสร้างมาให้เป็นคนพิเศษของพระองค์
- รู้ว่าหนูเป็นที่รักของพ่อแม่ ถึงแม้บางครั้งหนูจะไม่เข้าใจว่าทำไมพ่อแม่ถึงทำในสิ่งที่หนูไม่เห็นด้วย
- อธิษฐานขอพระเจ้าจะช่วยหนูให้รักพี่น้องของหนู และช่วยให้หนูมีความอดทนที่จะยอมให้ ยอมยกโทษ ยอมแบ่งปันกับพี่น้อง
- หนูจะไม่ลงมือตีใคร โดยเฉพาะผู้หญิง เพียงเพื่อทำให้ตัวหนูรู้สึกว่าหนูมีอำนาจเหนือกว่า ดีกว่า หรือเก่งกว่า
รูปภาพประกอบ
ข้อกำหนดในการใช้บทเรียนรูปภาพ เราต้องการให้บทเรียนและรูปภาพประกอบเป็นพระพรสำหรับทุกท่าน ดังนั้นจึงขอความร่วมมือจากท่านที่จะไม่นำไปใช้ในเชิงพาณิชย์ หรือใช้ในทางที่เบี่ยงเบนไปจากวัตถุประสงค์ของเรา
คำถามอภิปราย
- ครอบครัวของโยเซฟ มีพี่น้องกี่คน?
- หนูคิดว่าในครอบครัวที่มีลูกหลายคน มักจะมีปัญหาอะไรเกิดขึ้นได้บ้าง?
- ทำไมพวกพี่ชายของโยเซฟจึงไม่ชอบโยเซฟ? ถ้าหนูเป็นโยเซฟหนูจะทำอย่างไร?
- พระเจ้าให้โยเซฟฝันถึงสองครั้ง แต่ละครั้งเขาฝันว่าอะไรบ้าง?
- ความอิจฉาริษยาทำให้พวกพี่น้องของโยเซฟทำอะไรกับโยเซฟ เมื่อเขาเดินทางไปตามพี่ชายของเขา?
- ในที่สุดโยเซฟถูกจับขายให้กับพ่อค้าที่จะเดินทางไปไหน?
- ถ้าหนูเป็นพี่ชายคนหนึ่งของโยเซฟที่ไม่ต้องการที่จะฆ่าโยเซฟ หนูรู้ว่าสิ่งที่พวกพี่ชายคนอื่นกำลังทำนั้นเป็นความผิดอย่างมาก หนูจะทำอย่างไรในขณะที่พวกเขากำลังทำในสิ่งที่ผิดและหนูไม่อยากทำ?
- เมื่อกลับถึงบ้าน พวกพี่ชายของโยเซฟสำนึกผิดหรือไม่?
- เขาปกปิดความผิดของเขาอย่างไร?
กิจกรรม
มือของฉัน (งานประดิษฐ์)
สิ่งที่ต้องเตรียม
- กระดาษสีโปสเตอร์ 6x7 นิ้ว
- ไม้ไอศกรีมแท่ง
- กรรไกร
- กาว
- ปากกา
วิธีทำ
- แจกกระดาษสีและไม้ไอศกรีมคนละ 1 ชิ้น
- ให้เด็กทาบมือของตัวเอง แล้วลอกลายลงบนกระดาษสี
- เขียนคำว่า “มือของฉัน” ไว้ตรงกลางอุ้งมือกระดาษ และข้อความต่อไปนี้ลงบนนิ้วแต่ละนิ้วเริ่มจากนิ้วหัวแม่มือ
- ใช้สวัสดี 2. ไม่ตบตีเพื่อน 3. กอดแสดงความรัก 4. แบ่งปันคนอื่น 5. ไว้คืนดีกัน
- ใช้กรรไกรตัดตามรอยมือที่วาด แล้วติดกาวลงบนไม้ไอศกรีม
- ครูเน้นย้ำความจริงที่เด็กจะต้องใช้มือของเขาแสดงความเคารพ รัก แบ่งปัน และให้อภัยผู้อื่น โดยเฉพาะพี่น้องในครอบครัวของตัวเด็กเอง