เมื่อกลับบ้านวันนี้หนูจะได้
- เรียนรู้ว่าพระเจ้าองค์เที่ยงแท้ สมควรได้รับการยกย่องสรรเสริญ และไม่มีวิธีไหนดีเท่ากับการเชื่อฟังทำตามพระบัญชาของพระองค์
- ปรารถนาที่จะปรนนิบัติรับใช้พระเจ้าด้วยการทำตามกฎเกณฑ์ของพระองค์
- เชื่อฟังพระเจ้า และทำตามพระประสงค์ที่พระองค์ทรงมีต่อชีวิตของหนู
ข้อท่องจำ
“ราชอาณาจักรของพระองค์เป็นราชอาณาจักรนิรันดร์และการครอบครองของพระองค์ดำรงอยู่ตลอดทุกชั่วชาติพันธุ์”
- สดุดี 145:13
T I P S สำหรับคุณครู![](http://www.wonderfulwordproject.org/wp-content/uploads/2016/12/think.png)
ฮีบรู 10:24 “ขอให้เราพิจารณาดูเพื่อปลุกใจกันและกัน (หนุนใจ) ให้มีความรักและทำความดี” วิธีง่ายๆ ที่จะสร้างห้องเรียนที่เต็มไปด้วยพลังบวก คือการแสดงความเอาใจใส่ มองตาเด็กเวลาที่พูดคุยกับเด็ก เป็นผู้ฟังที่ดีโดยการพยักหน้ารับฟัง เรียกชื่อเด็กแทนการใช้สรรพนาม ใช้ภาษาสัมผัสรัก เช่น การโอบไหล่ ตบบ่าเบาๆ เมื่อเด็กรู้สึกเป็นที่รักและได้รับการยอมรับและให้เกียรติ เขาก็จะพยายามปฏิบัติตัวอย่างดีให้สมกับความรู้สึกมีคุณค่าในตัวของเขา
เกม “โหม่งลูกโป่ง”
สิ่งที่ต้องเตรียม
- ลูกโป่งตามจำนวนทีม ทีมละ 1 ลูก
- นาฬิกาเพื่อจับเวลา
วิธีเล่น
- แบ่งเด็กออกเป็นทีม ทีมละ 5 คน โอน้อยออกว่าทีมไหนได้เล่นก่อน
- กติกาของเกมคือเด็กต้องนำลูกโป่งจากคนที่1 ส่งต่อไปถึงคนที่5 (คนสุดท้าย) ให้ได้ โดยห้ามเอามือโดนลูกโป่งและห้ามให้ลูกโป่งตกพื้นเด็ดขาด สามารถใช้ได้เพียงหัวโดยการโหม่งลูกโป่งเท่านั้น
- จับเวลาที่แต่ละทีมใช้ในการส่งลูกโป่ง จากคนแรกจนถึงคนสุดท้าย
- แต่ละทีมที่ออกมาเล่น จะต้องยืนห่างกันประมาณหนึ่งช่วงแขน คนแรกจะต้องใช้หัวโหม่งลูกโป่งส่งต่อให้คนที่สอง เมื่อคนที่สองได้รับก็ส่งต่อให้คนที่สาม ตามลำดับจนถึงคนสุดท้าย
- ถ้าทีมไหนทำลูกโป่งตกพื้นหรือมีใครเผลอใช้มือจับลูกโป่ง ให้นำลูกโป่งกลับไปที่จุดเริ่มต้นแล้วเริ่มโหม่งใหม่ ทีมไหนนำลูกโป่งไปยังจุดสุดท้ายได้และทำเวลาได้ดีที่สุด ถือว่าทีมนั้นชนะ
บทนำเรื่อง “การแห่ขันหมาก”
พิธีแห่ขันหมากนั้นเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในพิธีแต่งงานแบบไทย โดยฝ่ายชายจะเป็นผู้เตรียมจัดขบวนแห่พร้อมด้วยพานขันหมากต่างๆ มาบ้านฝ่ายหญิงในวันแต่งงาน พิธีการแห่ขันหมากเป็นการสู่ขอความรักของชายหนุ่มต่อหญิงสาว อันเป็นขนบธรรมเนียมที่ปฏิบัติสืบทอดกันมาตั้งแต่สมัยสมเด็จพระร่วงเจ้าของอาณาจักรสุโขทัย อีกทั้งยังถือเป็นเครื่องแสดงความเคารพต่อพ่อแม่ฝ่ายเจ้าสาว และยังสื่อให้เห็นว่าฝ่ายเจ้าบ่าวยกย่องและให้เกียรติสู่ขอฝ่ายเจ้าสาวครบถ้วนตามประเพณี ส่วนฝ่ายเจ้าสาวเองก็ยินดีต้อนรับเจ้าบ่าวเป็นสมาชิกใหม่ในครอบครัว พิธีแห่ขันหมากเป็นพิธีที่ญาติมิตรทั้งฝั่งเจ้าบ่าวเจ้าสาวจะได้มีส่วนร่วม และได้เฮฮาร้องเล่นกันสนุกสนาน เมื่อมีขบวนแห่ขันหมากเมื่อไหร่ สิ่งที่เรามักจะเห็นและได้ยินตลอดคือเครื่องดนตรีและเสียงเพลง เสียงร้องที่ทางฝ่ายเจ้าบ่าวและญาติๆช่วยกันโห่ร้องตั้งแต่ต้นขบวนไปจนถึงปลายขบวนจะมีคนเล่นดนตรีมีกลองยาวและเต้นรำในขณะที่ขบวนเดินไปยังบ้านของเจ้าสาว ก่อนเริ่มขบวนจะมีการโห่ร้องรับกัน 3 ครั้ง เพื่อให้สัญญาณว่าขันหมากพร้อมแล้วที่จะเคลื่อนขบวน จากนั้นจึงค่อยเดินขบวนมาถึงบ้านเจ้าสาวและเมื่อขบวนขันหมากมาถึงบ้านเจ้าสาวหรือสถานที่จัดงาน ก็จะมีการโห่ร้องรับกันอีก 3 ครั้ง เพื่อบอกฝ่ายเจ้าสาวว่าเจ้าบ่าวเดินทางมาถึงแล้ว หลังจากนั้นขบวนขันหมากจะต้องผ่านด่านประตูเงิน ประตูทอง ที่ญาติและเพื่อนๆของเจ้าสาวยืนกั้นอยู่เป็นคู่ๆ ซึ่งขั้นนี้ประตูแต่ละด่านอาจมีการทดสอบเจ้าบ่าวด้วยภารกิจเล็กๆ น้อยๆ รวมถึงฝั่งเจ้าบ่าวก็จะมอบซองใส่เงินให้เพื่อเป็นค่าผ่านทาง เมื่อผ่านประตูมาได้แล้ว ก็เป็นอันเสร็จพิธีแห่ขันหมาก
การแห่เป็นประเพณีของการเฉลิมฉลองในหลายวัฒนธรรมทั่วโลก ในพระคัมภีร์ชาวอิสราเอลก็มีการแห่เฉลิมฉลองเช่นกัน วันนี้ให้หนูฟังและลองสังเกตดูสิว่าชาวอิสราเอลเขามีขบวนแห่เพื่อเฉลิมฉลองอะไรกัน
แหล่งที่มา: ออนไลน์: https://weddingreview.net/ สืบค้นเมื่อวันที่ 7 มกราคม 2564
เล่าเรื่องจากพระคัมภีร์ (2 ซามูลเอล บทที่ 5:1-5, 6:1-19, 7:12-29)
รูปภาพที่ 1 หลังจากซาอูลสิ้นพระชนม์ในสนามรบกับชาวฟีลิสเตีย ณ เมืองเฮโบรน ผู้คนจากทุกเผ่ามารวมตัวกันเพื่อเข้าเฝ้าดาวิดและทูลว่า “พวกเราเป็นพี่น้องร่วมสหายของท่านตั้งแต่ในรัชกาลของซาอูล ท่านก็ทรงเป็นผู้ นำเราในการรบ องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ตรัสกับฝ่าพระบาทไว้ว่า ‘เจ้าจะเป็นผู้เลี้ยงดูและเป็นผู้ปกครองอิสราเอลประชา กรของเรา’” ชาวอิสราเอลจึงรวมใจกันแต่งตั้งดาวิดให้เป็นกษัตริย์และปกครองเหนืออิสราเอล ดาวิดจึงได้ขึ้นเป็นกษัตริย์ตอนอายุ 30 ปีและครองราชย์อยู่ 40 ปี
รูปภาพที่ 2 ในเวลาที่ดาวิดได้ขึ้นครองราชย์เป็นกษัตริย์นั้น ดาวิดได้แต่งตั้งทแกล้วทหารคนสนิทอยู่ 30 คนให้เป็นวีรบุรุษของดาวิด พวกเขาเป็นทหารผู้กล้าที่รวมทุกข์ร่วมสุขต่อสู้และสนับสนุนดาวิดอย่างเข้มแข็งตั้งแต่สมัยที่ดาวิดยังไม่ได้เป็นกษัตริย์ มีครั้งหนึ่งระหว่างการรบกับพวกฟีลิส เตีย กองทัพของทหารฟีลิสเตียได้ตั้งป้อมที่เมืองเบธเลเฮม (บ้านเกิดของดาวิด) ดาวิดรำพึงขึ้นมาลอยๆ ด้วยความคิดถึงบ้านเกิดว่า “ใครหนอจะส่งน้ำจากบ่อที่เบธเลเฮมที่อยู่ข้างประตูเมืองมาให้เราดื่มได้” สามคนในทหารผู้กล้านี้จึงยอมเสี่ยงชีวิตของตนเองแหกค่ายฝ่ากองทัพทหารฟีลิสเตียเข้าไป แล้วตักน้ำจากบ่อน้ำที่อยู่ข้างประตูเมืองเบธเลเฮมเพื่อจะให้ดาวิดได้ดื่มน้ำนั้น ด้วยความซาบซึ้งใจทำให้ดาวิดไม่สามารถดื่มน้ำนั้นได้ พระองค์จึงเทน้ำนั้นออกถวายแด่พระเจ้า
รูปภาพที่ 3 ในทุกๆ วันมีคนมาขอเข้าฝ่ายดาวิด เพื่อจะสนับสนุนช่วยเหลือพระองค์ จนเป็นกองทัพใหญ่เหมือนอย่างกองทัพของพระเจ้า หลังจากนั้นไม่นานดาวิดมีความ คิดที่จะนำหีบพันธสัญญาของพระเจ้ากลับคืนมาสู่กรุงเยรูซาเล็ม เพราะในสมัยของซามูเอล ทหารชาวฟีลิสเตียเคยขโมยหีบพันธสัญญาของพระเจ้าไปจากอิสราเอล และพระเจ้าก็ทรงลงโทษชาวฟีลิสเตียอย่างหนัก ด้วยความกลัวภัยอันตราย ชาวฟีลิสเตียจึงคืนหีบพันธสัญญาของพระเจ้าให้กับอิสราเอล และพวกเขาก็นำหีบของพระเจ้ามาไว้ที่บ้านของอาบีนาดับ หนึ่งในลูกชายของกษัตริย์ซาอูลเป็นเวลาหลายปีตลอดรัชกาลของกษัตริย์ซาอูล จนในเวลานี้ดาวิดได้ขึ้นเป็นกษัตริย์องค์ใหม่ พระองค์จึงอยากนำหีบพันธสัญญาของพระเจ้าซึ่งเป็นเครื่องหมายของการสถิตอยู่ด้วยของพระเจ้ากลับมาอยู่ที่เมืองของเขา
เมื่อดาวิดและทหารมาถึงบ้านของอาบีนาดับพวกเขาก็นำหีบพันธสัญญาของพระเจ้าวางไว้บนเกวียนใหม่ และมีอุสซาห์กับอาหิโยบุตรอาบีนาดับเป็นผู้เดินนำเกวียน ดาวิดและพงศ์พันธุ์อิสราเอลเดินขบวนแห่เฉลิมฉลองด้วยความร่าเริง ร้องรำทำเพลง สรรเสริญพระเจ้าด้วยพิณเขาคู่และพิณใหญ่ รำมะนา กรับและฉาบ ขณะที่พวกเขาเดินอยู่นั้น มีวัวตัวหนึ่งสะดุดล้มและอุสซาห์ได้รีบเหยียดมือออกไปจับหีบพันธสัญญาของพระเจ้าไว้ พระพิโรธของพระเจ้าพลุ่งขึ้นต่ออุสซาห์ เขาล้มลงตายอยู่ข้างหีบของพระเจ้าเพราะเขาเหยียดมือออกจับหีบนั้น เพราะในพระคัมภีร์มีบันทึกไว้ว่า “ไม่ให้พวกเขาแตะต้องของบริสุทธิ์เพื่อจะไม่ต้องตาย” (กันดารวิถี 4:15) (**หีบพันธสัญญาของพระเจ้าถือเป็นสัญลักษณ์ถึงการทรงสถิตอยู่ด้วยของพระเจ้า เป็นของบริสุทธิ์ที่พระเจ้าได้สั่งห้ามไม่ให้ใครแตะต้องและพระองค์ยังให้กฎเกณฑ์อย่างเฉพาะเจาะจงในการเคลื่อนย้ายหีบพันธสัญญาของพระเจ้า คือเหล่าปุโรหิตและคนเลวีต้องหามด้วยการใช้ไม้คานสอดห่วงหาม (อพยพ 25:12-15,1 พงศาวดาร15:14-15) หลังจากที่เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นดาวิดก็ไม่พอใจและรู้สึกเกรงกลัวพระเจ้า จึงตัดสินใจว่าจะไม่นำหีบพันธสัญญาไปที่เมืองของดาวิด แต่ให้นำไปไว้ที่บ้านของโอเบดเอโอมชาวเลวี หีบพันธสัญญาของพระเจ้าอยู่ที่นั่นเป็นเวลาสามเดือน พระเจ้าทรงพอพระทัยและทรงอวยพรครอบครัวของโอเบดเอโอมกับสารพัดสิ่งที่เขามีอยู่เป็นอย่างมาก
รูปภาพที่ 4 อยู่มาวันหนึ่งมีคนมาบอกดาวิดว่า “พระเจ้าทรงอวยพรครอบครัวโอเบดเอโดมอย่างมาก” ดาวิดจึงทรง เตรียมที่ไว้สำหรับหีบของพระองค์ ทรงตั้งเต็นท์ไว้แล้วตรัสว่า “นอกจากคนเลวีแล้วไม่ควรที่คนอื่นจะหามหีบของพระเจ้า เพราะว่าพระเจ้าทรงเลือกเขาให้หามหีบของพระเจ้าและปรนนิบัติพระองค์เป็นนิตย์” พระองค์จึงรวบรวมเชื้อสายของอาโรน (ปุโรหิต) และคนเลวีขึ้นไปหามหีบพันธสัญญา เพราะพวกเขามิได้ไปหามหีบเสียแต่ครั้งแรกพระยาห์เวห์จึงพระพิโรธเพราะพวกเขามิได้แสวงหาพระเจ้า แต่กลับละเลยกฎเกณฑ์ของพระองค์ ดังนั้นคนเลีวีจึงไปหามหีบของพระเจ้าด้วยคานหามดังที่โมเสสได้บัญชาเขาไว้ตามพระวจนะของพระเจ้า ดาวิดได้สั่งให้บรรดาหัวหน้าคนเลวีเป็นนักร้อง เล่นเครื่องดนตรี พิณใหญ่ พิณเขาคู่ และฉาบ ทำเสียงชื่นบานถวายองค์พระผู้เป็นเจ้า
ดาวิด บรรดาผู้ใหญ่ของอิสราเอล และกองพันของอิสราเอลจึงได้นำหีบพันธสัญญาของพระเจ้าจากบ้านของ โอเบดเอโดมด้วยความยินดีเปรมปรีดิ์ พวกเขานำหีบของพระเจ้ามาวางไว้ภายในเต็นท์ซึ่งดาวิดได้ทรงตั้งไว้ และได้ถวายเครื่องเผาบูชาและเครื่องศานติบูชาแด่พระเจ้า แล้วพระองค์ได้ทรงอวยพรแก่ประชาชนทั้งหลาย
แผนการแห่งความรอด
ดาวิดชายที่พระเจ้าเลือกและเจิมให้เป็นกษัตริย์ของอิสราเอล เขารักพระเจ้าและต้องการยกย่องนมัสการพระเจ้า โดยการจะนำหีบพันธสัญญาของพระเจ้ากลับ มาที่เยรูซาเล็ม แต่สิ่งที่เขาทำพลาดไปคือเขาเลือกวิธีของเขาเองและละเลยกฎเกณฑ์ที่พระเจ้าเคยบัญชาไว้กับชนชาติอิสราเอลในเรื่องการเคลื่อนย้ายหีบพันธสัญ-ญา และวิธีของเขาก็นำมาถึงความหายนะ ความตายของอุสซาห์ เหตุการณ์นี้ได้สะท้อนแผนการแห่งความรอดที่พระเจ้ากำหนดไว้สำหรับมนุษย์ผ่านทางพระเยซูคริสต์ พระองค์เป็นทางเดียวเท่านั้นที่ครูและหนูจะไปถึงพระเจ้าพระบิดา มีเพียงผู้ที่เชื่อและไว้วางใจในพระเยซูว่าพระองค์เป็นบุตรพระเจ้าเท่านั้นที่จะมีสิทธิ์เป็นลูกของพระเจ้า แต่ก็ยังมีผู้คนจำนวนมากมายที่คิดหาหน ทางหรือเลือกวิธีทางของตัวเองที่จะไปถึงพระเจ้าได้ โดยละเลยกฎเกณฑ์ที่พระเจ้าวางไว้ตั้งแต่เริ่มแรก ในพระคัมภีร์เขียนไว้ว่า พวกเขากลับคิดในสิ่งที่ไม่เป็นสาระ จิตใจโง่เขลาของเขามืดมัวไปแล้วอ้างตัวว่าเป็นคนมีปัญญา เอาพระสิริของพระเจ้าผู้เป็นอมตะไปแลกกับรูปปั้น รูปนก รูปสัตว์ แล้วเรียกสิ่งเหล่านั้นว่าพระเจ้า พวกเขาเลือกวิธีของตัวเองหมิ่นประมาทพระเจ้า และปลาย ทางของเขาก็ไม่ต่างจากหายนะที่เกิดขึ้นกับอุสซาห์
พระคัมภีร์เกี่ยวข้องกับหนูอย่างไร
ครูและหนูไม่สามารถนมัสการหรือปรนนิบัติรับใช้พระเจ้าโดยการทำตามใจของตัวเอง และละเลยไม่คำนึงถึงกฎเกณฑ์ของพระเจ้า หากหนูทำเช่นนั้นจะเป็นที่พอใจของพระเจ้าไม่ได้เลย ผู้คนมากมายหันไปสร้างรูปเคารพและกราบไหว้ให้เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ บางคนถือคำพยากรณ์โชคชะตา ฮวงจุ้ย บางคนถือว่าทรัพย์สินเงินทองคือพระเจ้าของพวกเขา
สำหรับเด็กที่ยังไม่เชื่อพระเยซู พระเยซูบอกกับเราว่า พระองค์เป็นบุตรพระเจ้า เป็นทางนั้นและทางเดียวที่มนุษย์จะไปถึงพระเจ้าได้ วันนี้หนูสามารถตัดสินใจเลือกที่จะทำตามแผนการของพระเจ้า คือการเชื่อและวางใจในพระเยซู พระบุตรของพระเจ้าเที่ยงแท้แต่องค์เดียว ให้พระองค์เป็นพระผู้ช่วยให้รอดเพื่อหนูจะได้รับชีวิตนิรันดร์และการอวยพรที่แท้จริงจากพระเจ้า
สำหรับเด็กที่เป็นคริสเตียน วันนี้ให้หนูเลือกที่จะดำเนินชีวิตติดตามพระเจ้า ด้วยการไม่ประมาทแต่ระแวด ระวังทำตามกฎเกณฑ์ของพระเจ้า หนูจะรู้จักกฎเกณฑ์ของพระเจ้าได้อย่างไร? (เปิดโอกาสให้เด็กอภิปราย เช่น จากชั้นเรียนพระคัมภีร์, โดยการอ่านพระคัมภีร์ ฯลฯ) กฎเกณฑ์ของพระเจ้าถูกบันทึกในพระคัมภีร์ มีไว้เพื่อคนของพระเจ้าจะพรักพร้อมที่จะกระทำการดีทุกอย่าง
รูปภาพประกอบ
ข้อกำหนดในการใช้บทเรียนรูปภาพ เราต้องการให้บทเรียนและรูปภาพประกอบเป็นพระพรสำหรับทุกท่าน ดังนั้นจึงขอความร่วมมือจากท่านที่จะไม่นำไปใช้ในเชิงพาณิชย์ หรือใช้ในทางที่เบี่ยงเบนไปจากวัตถุประสงค์ของเรา
คำถามอภิปราย![](http://www.wonderfulwordproject.org/wp-content/uploads/2016/12/think.png)
(คำถามไม่เพียงทบทวนเนื้อหาจากบทเรียนเท่านั้น แต่ช่วยกระตุ้นให้เด็กได้คิดใคร่ครวญประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง บางคำถามอาจไม่มีคำตอบผิดหรือถูก แต่ช่วยให้เกิดการอภิปรายกันในห้องเรียน ในขณะเดียวกันเด็กจะได้เรียนรู้ในการแสดงความคิดเห็นและรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่นด้วย)
- ดาวิดได้รับการแต่งตั้งให้เป็นกษัตริย์ตอนอายุเท่าไหร่?
- ครั้งแรกที่ดาวิดต้องการนำหีบพันธสัญญาจากบ้านของอาบีนาดับไปยังเยรูซาเล็มเกิดอะไรขึ้น?
- ทำไมอุสซาห์จึงล้มลงตายข้างหีบพันธสัญญา?
- เมื่อหีบพันธสัญญาของพระเจ้าอยู่ที่บ้านของโอเบดเอโดม เกิดอะไรขึ้นกับครอบครัวเขา?
- การพยายามครั้งที่สองที่จะนำหีบพันธสัญญากลับไปเยรูซาเล็ม ดาวิดได้ทำอะไรที่ต่างไปจาก ครั้งแรกบ้าง?
- หนูคิดว่าทำไมการปรนนิบัติรับใช้พระเจ้าควรทำตามวิธีของพระเจ้า ไม่ใช่ตามใจตัวเอง?
- หนูได้เรียนรู้อะไรบ้างจากบทเรียนในวันนี้?
กิจกรรม
“ศิลปินตัวน้อย”
สิ่งที่ต้องเตรียม
- อุปกรณ์การทำเพลง หรือเครื่องดนตรี เช่น กรับ ฉิ่ง แทมบูริน กลอง (หากไม่มีเครื่องดนตรีเหล่านี้สามารถใช้ ช้อนส้อม ตะเกียบ โต๊ะ กล่องโลหะ กระป๋อง แก้ว ปากกา ไม้บรรทัด หรืออื่นๆ ที่สามารถเป็นเครื่องให้เสียงหรือทำจังหวะได้)
วิธีทำ
- แบ่งเด็กออกเป็นทีม ทีมละ 4-5 คน
- ให้แต่ละทีมเป่ายิงฉุบว่าทีมไหนจะเป็นทีมที่ 1, 2, 3
- ทีมที่หนึ่งสามารถเลือกอุปกรณ์การทำเพลงได้ก่อน 1 ชิ้น และทีมที่สองและสามตามลำดับ วนกันเลือกอุปกรณ์การทำเพลงจนครบทุกทีม
- ให้เด็กๆ ในแต่ละทีมช่วยกันแต่งเพลงในหัวข้อ “การเฉลิมฉลอง” จะเป็นเพลงไทย, สากล, ลูกกรุง, แร๊พ, ช้าหรือเร็ว หรืออื่นๆ ก็ได้ หรือเด็กๆ สามารถใช้จังหวะและทำนองมาจากเพลงที่เด็กๆชอบก็ได้ โดยมีเงื่อนไขว่าในเพลงๆนั้นต้องมีคำว่า “พระเจ้า” “ชื่นชมยินดี” และ “เฮ้..เฮ้..”
- คุณครูสามารถช่วยเด็กๆ แต่งเพลงและเตรียมตัวแสดง โดยให้เวลาประมาณ 15-20 นาที
- หลังจากที่ทุกๆ ทีมพร้อม ทีมแรกจะเป็นทีมที่แสดงก่อนและทีมที่สองและสามตามลำดับ
![David02 – activity1-3](https://www.wonderfulwordproject.org/wp-content/uploads/2023/04/David02-activity1-3.jpg)