บทเรียน : ดาวิดปะทะโกลิอัท

เมื่อกลับบ้านวันนี้หนูจะได้

  • เห็นว่าพระเจ้ามีฤทธิ์อำนาจที่ยิ่งใหญ่กว่าสิ่งต่างๆ หรือสถานการณ์น่ากลัวต่างๆ ในโลก และพระองค์ไม่เคยทอดทิ้งคนของพระองค์ให้เผชิญสิ่งต่างๆ โดยลำพัง
  • ตระหนักว่าหนูสามารถเป็นคนที่กล้าหาญได้ถ้าหนูเชื่อในฤทธิ์อำนาจของพระเจ้า พระเจ้าจะช่วยและหนุนกำลังของหนู
  • เลือกที่จะเชื่อในฤทธิ์อำนาจของพระเจ้า แทนที่จะกลัวและยอมแพ้

ข้อท่องจำ

“เพราะพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านเสด็จไปกับท่าน พระองค์ทรงต่อสู้กับศัตรูเพื่อท่านและจะประทานชัยชนะแก่ท่าน”
- เฉลยธรรมบัญญัติ 20:4

T I P S สำหรับคุณครู

2 ทิโมธี 2:15 “จงอุตส่าห์ถวายตัวท่านเองที่พระเจ้าทรงรับรองแล้วแด่พระองค์ เป็นคนงานที่ไม่อับอาย สอนพระวจนะแห่งความจริงอย่างถูกต้อง” ให้พระธรรมข้อนี้เป็นคำที่ตราติดในดวงใจของคุณครูทุกท่าน เตรียมการสอนด้วยการอธิษฐานและศึกษาพระคัมภีร์ วางแผนการสอนเตรียมสื่อและอุปกรณ์การสอนล่วงหน้า พร้อมที่จะใช้เวลากับเด็กๆ อย่าปล่อยให้ชั้นเรียนแต่ละสัปดาห์ผ่านไปแบบจวนตัว แต่วางแผนและจัดเตรียมให้ชั้นเรียนของคุณครูเป็นชั่วโมงคุณภาพ ทำให้ชั้นเรียนของคุณครูเป็นชั้นเรียนพระคำแสนสนุกจริงๆ

เกม “ปิงปองปาก”

สิ่งที่ต้องเตรียม

  • ลูกปิงปอง 1 ลูก
  • โต๊ะเรียน

วิธีเล่น

  • แบ่งเด็กออกเป็น 2 ทีม แล้วให้แต่ละทีมยืนคนละฟากของโต๊ะ ทีมละ 3-4 คน (ต่อตา)
  • วางลูกปิงปองไว้ตรงกลางโต๊ะ
  • ทั้งสองทีมจะต้องพยายามเป่าลูกปิงปองให้ไปยังขอบโต๊ะของอีกฝ่าย ถ้าลูกปิงปองวิ่งไปถึงขอบโต๊ะและตกลงพื้นของฝ่ายตรงข้าม ทีมที่เป่าจะได้ 1 แต้ม
  • ทีมไหนทำได้ 5 แต้มก่อนชนะ

บทนำเรื่อง “ปมด้อยทำให้เป็นแชมป์โลก”

เชื่อว่าเด็กๆ คงไม่ชอบให้ใครมาดูถูกหรือล้อเลียนเรื่องรูปลักษณ์ของตน เช่นเดียวกับคนๆนี้ “จักรินทร์ หอมหวล” หรือพี่รุ่ง แชมป์โลกแบดมินตันคนพิการ ตั้งแต่เกิดมา จักรินทร์ เคยใช้ชีวิตแบบคนปกติไม่ถึงครึ่งปี เพราะช่วงแรกเกิดกระดูกสันหลังของเขาหักตั้งแต่อายุเพียงแค่ 6 เดือนเท่านั้น ครอบครัวพยายามรักษาเขา แต่ก็รักษาไม่ได้ แต่ด้วยใจที่รักกีฬาตั้งแต่เด็กและมีความฝันอยากที่จะเป็นนักกีฬาทีมชาติ แม้สภาพร่างกายเขาไม่เอื้ออำนวย บางครั้งเขารู้สึกท้อแท้กับโชคชะตา แต่เขาไม่เคยถอดใจสักครั้ง ตั้งแต่เด็ก คนชอบว่าเขาอ้วนเกินไปไม่เหมาะที่จะเป็นนักกีฬา ตอนนั้นเขารู้สึกโกรธ และไม่พอใจกับคำที่คนดูถูก จักรินทร์เล่าว่า “ช่วงเริ่มต้น มีคนชอบล้อว่าเราอ้วน ยอมรับว่าเราเองก็โกรธมาก แต่จะไปทำอะไรเขาได้ เพราะส่วนหนึ่งที่เขาพูดมันก็เป็นความจริง และอีกส่วนหนึ่งก็อยู่ที่ตัวเราว่า จะก้าวข้ามคำว่าอ้วนไปได้ยังไง จนผมคิดอยู่อย่างหนึ่งว่า ต้องลบคำสบประมาทนั้นให้ได้ ด้วยการซ้อมให้หนักขึ้น หลังจากนั้นผมจึงมุ่งมั่นกับการฝึกซ้อมในทุกๆวัน จนวันนี้ความอ้วนของผมทำให้ผมไปสู่ผลสำเร็จที่ผมได้ทำมา”

จักรินทร์เอาคำพวกนั้นมาเป็นแรงผลักดันในการเล่นแบดมินตันให้ดียิ่งขึ้น จนในที่สุดเขาคว้าแชมป์โลกมาได้ถึง 2 ครั้งในปี 2013 และ 2017 จักรินทร์เป็นแชมป์โลกแบดมินตันคนพิการที่เยอรมนีและเกาหลีใต้ และล่าสุดในปี 2019 เป็นรองแชมป์โลกที่สวิตเซอร์แลนด์

ถ้าเรามองและตัดสินคนจากแค่ภายนอก พี่จักรินทร์คงเป็นคนแรกๆ ที่เราคิดว่าเขาคงไม่มีความสามารถที่จะเป็นนักกีฬาแชมป์โลก เพราะความพิการและความอ้วนของเขา แต่เพราะความมุ่งมั่นไม่ย่อท้อของเขา ได้นำ พาเขาไปสู่ตำแหน่งแชมป์โลกได้ในที่สุด

 

แหล่งที่มา: ปวีน เทพพวงทอง, 20 มกราคม 2563, จักรินทร์ หอมหวล “ความอ้วนทำให้ผมเป็นแชมป์โลก”, Stadium TH, สืบค้นวันที่ 13 กรกฎาคม 256
รูปภาพโดย: มติชน ออนไลน์ วันที่ 11 ตุลาคม พศ. 2561

เล่าเรื่องจากพระคัมภีร์ (1 ซามูเอล 15:1-16:23)

 รูปภาพที่ 1  "ถ้าใครคิดว่ามีฝีมือจริงและสามารถฆ่าข้าได้ พวกข้าจะยอมเป็นทาสของคนอิสราเอล แต่ถ้าข้าชนะและฆ่าคนนั้นได้ คนอิสราเอลจะต้องยอมมาเป็นทาสรับใช้ของพวกข้า” โกลิอัท ทหารชาวฟิลิสเตียออกมายืนท้าทหารอิสราเอลว่าให้ส่ง​ใครก็ได้ออก​มาต่อสู้​กับ​เขา

ณ ค่ายเอเฟสดัมมิม กองทัพของคนฟีลิสเตีย รวบรวมกำลังทหารเพื่อทำสงคราม ส่วนซาอูลและคนอิสราเอลก็รวมพลตั้งค่ายอยู่ในหุบเขาเอลาห์ เพื่อจะสู้รบกับคนฟีลิสเตีย หนึ่งในทหารของคนฟีลิสเตียชื่อ โกลิอัท เขาสูงหกศอกคืบ (ประมาณ 3 เมตร) สวมหมวกและเสื้อเกราะทองสัมฤทธิ์น้ำหนักประมาน 57 กก. ที่ขาของเขาใส่สนับแข้งทองสัมฤทธิ์และมีหอกไขว้ไว้ที่หลัง ซึ่งหัวหอกนั้นทำด้วยเหล็กหนักประมาน 7 กก. และมีทหารถือโล่เดินนำหน้าเขา เมื่อซาอูลและคนอิสราเอลได้ยินคำท้าของโกลิอัทที่ให้ส่งคนไปสู้กับเขา ทุกคนก็เริ่มรู้สึกกลัวและท้อแท้ใจ

เจสซีมีลูกชายทั้งหมดแปดคน ลูกชายคนโตสามคนของเขา เอลีอับ อาบีนาดับ และ ชัมมาร์ ตามซาอูลไปทำสงครามที่ค่ายทหาร ส่วนดาวิด ลูกชายคนเล็กสุดของเจสซี ในเวลานั้นช่วยพ่อของเขาเลี้ยงแกะอยู่ที่เบธเลเฮม วันหนึ่งเจสซีพ่อของดาวิดบอกกับดาวิดว่า “ให้เอาของไปเยี่ยมพี่ชายที่ค่ายทหารและดูว่าพวกเขาสบายดีไหม”  ดาวิดก็รีบทิ้งฝูงแกะไว้ให้คนดูแล และเก็บข้าวของออกเดินทางตามที่พ่อเขาบอก เมื่อดาวิดไปถึงค่ายทหาร ขณะนั้นพวกทหารกำลังโห่ร้องจะทำศึก ดาวิดก็ได้ยินโกลิอัทออกมาท้าทายชาวอิสราเอลเหมือนอย่างเคย ดาวิดได้ยินพวกทหารพูดกันว่า “เห็นชายที่ออกมานั่นหรือเปล่า เขาออกมาท้าทายอิสราเอลแท้ๆ ถ้าใครฆ่าเขาได้กษัตริย์ซาอูลจะมอบทรัพย์สินเงินทองมากมายและยกลูกสาวของพระองค์เองให้แต่งงานด้วย และครอบครัวของเขาจะยังได้รับการยกเว้นภาษีอีกด้วย” เมื่อดาวิดได้ยินอย่างนั้นแล้ว เขาก็ถามว่า “​คน​ฟีลิสเตีย​คน​นี้​เป็น​ใคร​กัน ถึง​กล้า​มา​ท้า​รบ​กับ​กองทัพ​ของ​พระเจ้า​ผู้​มี​ชีวิต​อยู่” มี​คน​ได้ยิน​เรื่อง​ที่​ดาวิด​พูดกับทหาร แล้ว​เอาไป​รายงาน​ต่อ​ซาอูล ซาอูล​ก็​เลย​รีบเรียก​ดาวิด​มา​พบ เมื่อพบแล้ว ดาวิด​ก็เสนอตัวจะเป็นผู้ไปสู้กับโกลิอัท แต่ซาอูลตอบว่า “เจ้าสู้โกลิอัทไม่ได้หรอก เจ้าเป็นแค่เด็กหนุ่มตัวเล็กแต่เขาเป็นนักรบชำนาญศึก” และดาวิดตอบ​ซาอูล​ว่า “ข้าเคย​ดูแล​แกะ​ให้​กับ​พ่อ​ของ​ข้า เมื่อ​มี​สิงโต​หรือ​หมี​มา​จับ​แกะ​ไป​จาก​ฝูง ข้า​ก็​ไล่​ตาม​และไป​ช่วย​ชีวิต​แกะ​จาก​ปาก​ของ​มัน ถ้ามันย้อน​กลับ​มาข้าก็ฆ่า​มัน​เสีย การต่อสู้กับ​คน​ฟีลิสเตีย​คนนี้ก็​ไม่ต่างกับการต่อสู้​กับ​สัตว์​พวก​นั้น พระเจ้า​ได้​ทรงช่วยกู้​ข้าพเจ้า​ให้​รอดพ้น​จาก​เขี้ยวเล็บ​สิงโต​และ​หมี พระองค์​ก็​จะ​ช่วยข้า​ให้​รอดพ้น​จาก​​มือ​ของ​คน​ฟีลิสเตีย​คน​นี้​ด้วย​เช่น​กัน” ซาอูลจึงสั่งกับดาวิดว่า “งั้นไป​เถอะ และ​ขอ​ให้​พระเจ้าทรง​สถิต​อยู่​กับ​เจ้า”

รูปภาพที่ 2  จากนั้นซาอูลก็เอาเสื้อเกราะและหมวกเหล็กมาสวมให้ดาวิด แต่เมื่อดาวิดลองใส่ดูแล้วเขาก็ถอดออกเพราะดาวิดไม่ชินกับมัน หลังจากนั้นดาวิดก็หยิบไม้เท้าแล้วไปเลือกก้อนหินมาห้าก้อนจากลำธาร เอาใส่ไว้ในย่ามของเขาอีกมือหนึ่งถือสลิงอยู่ เขาเดินตรงไปหาโกลิอัท เมื่อโกลิอัทมองเห็นดาวิดเข้ามาหาก็ดูถูกเขา เพราะดาวิดเป็นแค่เด็กหนุ่มตัวเล็ก โกลิอัทพูดกับเขาว่า “เห็นข้าเป็นหมาหรือไง เจ้าถึงถือไม้เท้ามาหาข้า” เขาแช่งด่าดาวิดแล้วอ้างนามเทพเจ้าต่างๆ โกลิอัทตะโกนด้วยเสียงโกรธเกรี้ยวว่า “มาสิ ข้าจะเอาเนื้อเจ้าให้นกและสัตว์ป่ากิน” ดาวิดตอบกลับไปว่า “วันนี้องค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงมอบเจ้าให้แก่เรา เราจะฆ่าและตัดหัวเจ้า วันนี้เราจะเอาซากศพของกองทัพฟีลิสเตียให้นกกาและสัตว์ป่ากิน แล้วทั้งโลกจะได้รู้ว่ามีพระเจ้าในอิสราเอล  คนทั้งปวงที่ชุมนุมกันอยู่ที่นี่จะได้รู้ว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าไม่ได้ทรงช่วยให้รอดด้วยดาบหรือหอก การศึกครั้งนี้เป็นขององค์พระผู้เป็นเจ้า พระองค์จะทรงมอบเจ้าทุกคนไว้ในมือของพวกเรา”

รูปภาพที่ 3 หลังจากนั้น โกลิอัทก็เดินเข้ามาใกล้ดาวิด แล้วดาวิดก็วิ่งตรงเข้าไปหาโกลิอัท ล้วงหยิบก้อนหินออกมาคล้องกับสายสลิง แล้วโน้มตัวเหวี่ยงก้อนหินลอยไปอัดเข้าที่หน้าผากของโกลิอัท ก้อนหินฝังจมเข้าไปบนหน้า ผากของโกลิอัท และแล้วโกลิอัทก็ล้มหน้าคว่ำลงที่ดิน

รูปภาพที่ 4 แต่ดาวิดไม่มีดาบอยู่ในมือ เขาวิ่งขึ้นไปบนร่างของโกลิอัทแล้วดึงดาบของเขาออกมาและฆ่าเขาพร้อมกับตัดศรีษะของโกลิอัท เมื่อพวกฟีลิสเตียเห็นว่ายอดทหารของเขาตายเสียแล้วต่างพากันหนีพ่ายแตกกระเจิงไป พวกอิสราเอลต่างก็ลุกขึ้นโห่ร้องไล่ตามพวกฟีลิสเตียไป ในวันนั้นพระเจ้าได้มอบคนฟีลิสเตียไว้ในมือของคนอิสราเอลดั่งที่ดาวิดได้กล่าวไว้

 

 

แผนการแห่งความรอด

เราเห็นได้ชัดเจนว่าสงครามระหว่างคนอิสราเอลกับคนฟีลิสเตียในครั้งนี้ ฝ่ายที่ได้เปรียบคือฝ่ายของคนฟีลิสเตีย ยิ่งได้เห็นทหารที่ตัวใหญ่ที่สุดอย่างโกลิอัท ยิ่งทำให้คนอิสราเอลต่างหวาดกลัวและหมดกำลังใจ แต่เด็กหนุ่มอย่างดาวิดกลับไม่กลัวโกลิอัทเลย ดาวิดรู้ว่าพระเจ้าจะทรงสถิตอยู่กับเขาและพระเจ้าจะไม่ทรงทอดทิ้งคนของพระองค์แต่จะทรงช่วยให้สำเร็จตามแผนการของพระองค์ และนี่เองเป็นการเริ่มต้นแผนการของพระเจ้า ที่นำดาวิดเข้ามาในวัง และเป็นที่ยอมรับของเหล่าทหารและประชาชนในอิสราเอล ถึงแม้ดาวิดไม่ได้มาจากเชื้อสายของกษัตริย์ เขาเป็นเพียงแค่เด็กเลี้ยงแกะตัวเล็กๆจากเบธเลเฮม แต่ได้กลายมาเป็นนักรบที่สามารถล้มยักษ์ได้เพราะความกล้าหาญและไว้วางใจในพระเจ้าของเขา และเพราะหัวใจของดาวิดนี้เอง พระเจ้าจึงทรงใช้เขาในแผนการทรงไถ่ของอิสราเอลจากพวกฟีลิสเตียในวันนั้นและในภายหลัง พระเจ้าได้ใช้ดาวิดเป็นต้นตระกูลของพระเยซูคริสต์ ผู้ที่ทำให้แผนการของพระเจ้าในการ
ไถ่มวลมนุษย์จากความบาปสำเร็จสมบูรณ์

 

พระคัมภีร์เกี่ยวข้องกับหนูอย่างไร

เมื่อคนอิสราเอลเห็นโกลิอัทต่างพากันหวาดกลัวและท้อแท้ แล้วในชีวิตของเด็กๆ หนูเคยรู้สึกว่าหนูเจออะไรที่ใหญ่เกินหรือยากเกินที่จะผ่านมันไปได้ไหม?

สำหรับเด็กที่เชื่อพระเจ้าแล้ว - ดาวิดแสดงให้เห็นว่าหนูสามารถเลือกที่จะกลัวหรือเลือกที่จะเชื่อวางใจพระเจ้า พระองค์สามารถช่วยให้หนูกล้าหาญที่จะเอาชนะสิ่งที่หนูกลัวไปได้ แม้หนูจะไม่มีประสบการณ์หรือกำลังมากมาย แต่พระเจ้าจะทรงนำหนูก้าวข้ามผ่านความยากและความเป็นไปไม่ได้ต่างๆ ด้วยวิธีและกำลังของพระองค์ เพราะว่าพระเจ้ามีฤทธิ์ที่ยิ่งใหญ่

สำหรับเด็กที่ยังไม่เชื่อ - โกลิอัทเปรียบเหมือนปัญหาที่ใหญ่มากในชีวิตของหนู นั่นก็คือความบาปที่หนูไม่สามารถเอา ชนะได้ด้วยตัวเอง (โรม 3:10) หากหนูต้องการเอาชนะความบาปนั้น หนูจำเป็นต้องพึ่งพากำลังของพระเจ้าโดยการเชื่อและวางใจในพระเยซู เพราะผู้ที่มีพระเยซูก็มีชัยชนะเหนือความบาป เหมือนที่ดาวิดสามารถเอาชนะ โกลิอัทได้เพราะเขาเชื่อและวางใจในพระเจ้า

รูปภาพประกอบ

ข้อกำหนดในการใช้บทเรียนรูปภาพ  เราต้องการให้บทเรียนและรูปภาพประกอบเป็นพระพรสำหรับทุกท่าน ดังนั้นจึงขอความร่วมมือจากท่านที่จะไม่นำไปใช้ในเชิงพาณิชย์ หรือใช้ในทางที่เบี่ยงเบนไปจากวัตถุประสงค์ของเรา

คำถามอภิปราย

(คำถามไม่เพียงทบทวนเนื้อหาจากบทเรียนเท่านั้น แต่ช่วยกระตุ้นให้เด็กได้คิดใคร่ครวญประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง บางคำถามอาจไม่มีคำตอบผิดหรือถูก แต่ช่วยให้เกิดการอภิปรายกันในห้องเรียน ในขณะเดียวกันเด็กจะได้เรียนรู้ในการแสดงความคิดเห็นและรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่นด้วย)

  1. ทำไมทหารอิสราเอลจึงกลัวที่จะออกไปสู้รบกับคนฟีลิสเตีย?
  2. กษัตริย์ซาอูลสัญญาจะให้บำเหน็จอะไรบ้างแก่คนที่ฆ่าโกลิอัทได้?
  3. ดาวิดเลือกอะไรเป็นอาวุธในการสู้รบกับโกลิอัทแทนชุดเกราะ ดาบและหมวกเหล็ก?
  4. หนูคิดว่าแท้ที่จริงแล้ว ดาวิดชนะโกลิอัทได้อย่างไร?
  5. ทำไมหนูคิดว่าดาวิดถึงไม่กลัวโกลิอัทเลย ทั้งๆ ที่โกลิอัทตัวใหญ่กว่าดาวิดมากหลายเท่า?
  6. อะไรเป็นโกลิอัทในชีวิตของหนูตอนนี้ หนูคิดว่าอะไรเป็นอุปสรรคที่ใหญ่และยากสำหรับหนู?
  7. หนูได้เรียนรู้อะไรบ้างจากความกล้าหาญของดาวิด?

 

 

กิจกรรม

อย่ากลัวเพราะพระเจ้าอยู่กับหนู

สิ่งที่ต้องเตรียม

  1. หินคนละ 5 ก้อน (ตามจำนวนของเด็ก)
  2. สีน้ำโปสเตอร์
  3. พู่กัน
  4. ปากกาเมจิกกันน้ำ (permanent marker)

วิธีทำ

  1. แจกหินให้เด็กคนละ 5 ก้อน (หรือหากมีเวลาและสถานที่เอื้ออำนวย เช่น มีลานหินกรวด อาจให้เด็กมีโอกาสออกไปรวบรวมหินคนละ 5 ก้อนด้วยตัวเอง)
  2. ระบายสีพื้นของหินให้เรียบและสวยงาม รอให้สีแห้งพอที่จะเขียนตัวหนังสือได้
  3. เขียนคำลงไปบนหินแต่ละก้อน ดังต่อไปนี้
    - อย่ากลัว (หินก้อนแรก)
    - เพราะ (หินก้อนที่สอง)
    - พระเจ้า (หินก้อนที่สาม)
    - อยู่กับ (หินก้อนที่สี่)
    - ชื่อของเด็ก (หินก้อนที่ห้า)
  4. ตกแต่งหินเพิ่มเติมให้สวยงามตามชอบ

กิจกรรม

มาล้มยักษ์กันเถอะ

สิ่งที่ต้องเตรียม

  • กล่องกระดาษลังจำนวนหลายๆ กล่องที่สามารถซ้อนกันแล้ววัดความสูงได้ประมาณ 3 เมตร  (เท่าความสูงของโกลิอัท)
  • เทปกาว
  • กระดาษสีต่างๆ ขนาด A4
  • ปากกาเมจิก
  • ลูกบอลพลาสติกหรือลูกเทนนิส

วิธีทำ

  • แจกกระดาษสีขนาด A4 และปากกาเมจิกให้เด็กแต่ละคน และให้เด็กเขียนสิ่งที่เด็กๆ คิดว่ายากหรือสิ่งที่เป็นอุปสรรคในชีวิตของเด็กลงบนกระดาษที่แจกตัวใหญ่เต็มหน้ากระดาษ
  • เขียนเสร็จให้เด็กนำกระดาษไปแปะไว้บนกล่องกระดาษที่ครูเตรียมไว้
  • หลังจากนั้นให้เด็กช่วยกันเรียงกล่องกระดาษลังซ้อนๆ กันให้มีความสูงเท่าๆ ความสูงของโกลิอัทประมาณ 3 เมตร (ครูอาจใช้เก้าอี้ที่มีพนักพิงเพื่อช่วยให้กล่องที่ซ้อนไม่เอนล้ม)
  • เริ่มเล่นเกม (อาจเล่นในที่โล่ง หรือหากเล่นในห้องเรียน ขอให้ครูเลือกมุมที่ลูกบอลและกล่องจะไม่กระเด็นไปทำให้ข้าวของเสียหาย) โดยสมมุติให้กล่องที่สูงตระหง่านเปรียบเหมือนยักษ์โกลิอัทในชีวิตของเด็กๆ และให้เด็กเข้าแถวเรียงหนึ่งห่างจากยักษ์ประมาณ 2-3 เมตร
  • ให้เด็กๆ หันหน้าเข้าหาโกลิอัท แล้วปาลูกบอลใส่โกลิอัททีละคนจนกว่าโกลิอัทจะล้ม พร้อมกับพูดว่า “การต่อสู้ครั้งนี้เป็นของพระยาห์เวห์” (1 ซามูเอล 17:47)

กิจกรรม

ทำที่บ้าน