บทเรียน : ความขมขื่นของนาโอมี

เมื่อกลับบ้านวันนี้หนูจะได้

  • พระเจ้าครอบครองเหนือทุกสิ่ง และทุกสิ่งอยู่ภายใต้การควบคุมของพระเจ้า
  • เห็นความจำเป็นที่จะต้องพึ่งพาพระเจ้า และให้พระเจ้าเป็นผู้ช่วยในยามยากลำบาก
  • วางใจพระเจ้าแม้ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก และเกินความเข้าใจ

ข้อท่องจำ

“ความรอดของคนชอบธรรมมาจากพระยาห์เวห์ พระองค์ทรงเป็นที่ลี้ภัยของเขาในเวลายากลำบาก”  -สดุดี 37:39

T I P S สำหรับคุณครู

เด็กทุกคนต้องการได้รับการหนุนใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขาเริ่มเรียนหรือเริ่มฝึกฝนทักษะใหม่ๆ ครูอาจสร้างขวัญกำลังใจให้เด็กได้ด้วยวิธีง่ายๆ โดยเตรียมกล่องหรือถุง“รางวัลเด็กดี” ข้างในใส่รางวัล เช่น ขนม สติกเกอร์ ของขวัญชิ้นเล็กๆ ฯลฯ ครูอาจแนะนำรางวัลนี้และชี้แจงกติกาอย่างชัดเจนว่าเด็กๆ จะสามารถได้รับรางวัลนี้ได้อย่างไร เช่น รางวัลนี้สำหรับเด็กที่เอาใจใส่ ตั้งใจเรียนบทเรียนพระคัมภีร์ที่ครูสอน หรือทำงานที่ได้รับมอบหมายเสร็จเรียบร้อย ท้ายชั่วโมงเรียนครูอาจเลือกเด็กที่ทำตามกติกาออกมารับรางวัล

 

เกม “ไปไหนไปกัน”

สิ่งที่ต้องเตรียม

  • ลูกโป่งตามจำนวนทีม

วิธีเล่น

  • แบ่งเด็กออกเป็น 2 ทีม (หรืออาจมีมากกว่านั้น หากมีเด็กในชั้นเรียนจำนวนมาก) แต่ละทีมควรมีจำนวนเป็นเลขคู่
  • ครูกำหนดจุดเริ่มต้นและจุดที่เด็กต้องวิ่งอ้อมผ่านก่อนย้อนกลับไปจุดเริ่มต้น
  • แจกลูกโป่งที่เป่าและมัดเรียบร้อยแล้วให้เด็กแต่ละทีมๆ ละ 1 ลูก
  • ในแต่ละทีมจับคู่ เพื่อแต่ละคู่จะช่วยกันหนีบประคองลูกโป่งเดินไปที่จุดที่กำหนดแล้วเดินหนีบลูกโป่งกลับมาโดยไม่ใช้มือของทั้งสองคนจับลูกโป่ง หากลูกโป่งหล่นลงพื้นคู่นั้นต้องมาเริ่มที่จุดเริ่มต้นใหม่
  • เมื่อกลับมายังเส้นเริ่มต้น ให้เปลี่ยนถ่ายลูกโป่งให้คู่ต่อไปในทีม

บทนำเรื่อง

ชื่อนั้นสำคัญไฉนหนอ ในสมัยก่อนคนไทยส่วนใหญ่เข้าใจว่า “ดอกลั่นทม” เป็นดอกไม้อัปมงคล ไม่นิยมปลูกกันในบ้านเรือนที่อยู่อาศัย เพราะมีชื่อใกล้เคียงกับคำว่า “ระทม” ทำให้เชื่อว่าปลูกต้นไม้นี้ในบ้านแล้วจะมีแต่ความทุกข์ระทม แต่อันที่จริงแล้ว หลายคนหารู้ไม่ว่าคำว่า “ลั่นทม” เป็นคำผสมจากคำว่า “ลั่น” และ “ทม” ซึ่งคำว่า “ลั่น” นั้นมีความหมายว่า “ละทิ้ง” ส่วนคำว่า “ทม” หมายถึง “ความระทม ความเศร้าโศก” เมื่อนำมารวมกันจึงมีความหมายว่า “ละทิ้งความทุกข์ระทม” หรือมีแต่ความสุขนั่นเอง ภายหลังดอกไม้ชนิดนี้จึงได้รับเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น “ดอกลีลาวดี” ซึ่งมีความหมายว่า “ท่วงท่าอ่อนช้อย งามสง่า”  ดอกที่งดงามอ่อนช้อยสมดังชื่อที่ถูกเปลี่ยนใหม่ ทำให้ภายหลังได้รับความนิยมจากผู้คนทั่วไป ทำให้ถูกนำไปปลูกกันอย่างแพร่หลาย

ชื่อของผู้หญิงคนหนึ่งในพระคัมภีร์ มีความหมายว่า “หอมหวาน ชื่นชมยินดี” แต่วันนี้ครูจะพาเด็กๆ มาดูกันว่า ชีวิตของเธอจะหอมหวานเหมือนชื่อของเธอหรือเปล่า ชื่อของเธอจะเป็นเหมือนชื่อของดอกลั่นทมหรือไม่ ทั้งๆ ที่ชื่อนั้นมีความหมายดี แต่ผู้คนต่างกลับเข้าใจผิดว่าเป็นชื่ออัปมงคล ชีวิตของเธอยุ่งเหยิงขนาดถึงขั้นว่าเธออยากจะเปลี่ยนชื่อให้กับตัวเธอเองเลยทีเดียว

(ข้อมูลอ้างอิงจาก เกร็ดพรรณไม้ ลีลาวดี ไม่ใช่ชื่อพระราชทาน www.panmai.com)

 

เล่าเรื่องจากพระคัมภีร์ (นางรูธ 1:1-22)

ภาพที่ 1  ในสมัยของผู้วินิจฉัย ไม่มีกษัตริย์ในอิสราเอล ประชาชนต่างก็กระทำตามที่ตนเองเห็นชอบ พวกเขาปฏิเสธพระเจ้า หันไปกราบไหว้รูปเคารพและทำสิ่งที่ชั่วร้ายในสายตาของพระเจ้า ในเวลานั้นเกิดการกันดารอาหารในแผ่นดิน ซึ่งเป็นผลลัพธ์จากการที่อิสราเอลหันหลังไม่ติดตามและเชื่อฟังพระเจ้า

 

ภาพที่ 2  เอลีเมเลคกับภรรยาของเขา ชื่อนางนาโอมี พร้อมกับลูกชายสองคน คือ คิลิโอนและมาห์โลนอพยพจากเมืองเบธเลเฮ็มในยูดาห์ไปยังแผ่นดินโมอับ ซึ่งเป็นแผ่นดินของชาวต่างชาติและอาศัยอยู่ที่นั่น

 

ภาพที่ 3 หลังจากนั้นเอลีเมเลคก็เสียชีวิตลง ทิ้งให้นางนาโอมีเป็นม่ายไว้กับลูกชายทั้งสองคน ลูกชายทั้งสองคนได้แต่งงานกับหญิงชาวโมอับชื่อนางโอรปาห์ และนางรูธ  พวกเขาอาศัยอยู่ที่นั่นได้ประมาณ 10 ปี ลูกชายทั้งสองของนางนาโอมีก็เสียชีวิตลง (พระคัมภีร์ไม่ได้บันทึกว่าชายทั้งสามคนเสียชีวิตด้วยสาเหตุใด)

นาโอมีต้องถูกทอดทิ้งโดยการจากไปของสามีและลูกชายทั้งสอง พร้อมกันนั้นนางก็ได้ยินข่าวว่า พระเจ้าได้มาช่วยอิสราเอลให้ผ่านพ้นการกันดารอาหารแล้ว

 

ภาพที่ 4  นางนาโอมีจึงเก็บข้าวของออกเดินทางจากแผ่นดินโมอับโดยตั้งใจจะเดินทางกลับบ้านเกิดคือแผ่นดินยูดาห์ นางจึงพูดกับลูกสะใภ้ทั้งสองว่า  “ไปเถิด ขอให้ต่างคนต่างกลับไปบ้านแม่ของตน ขอพระเจ้าทรงเมตตาต่อเจ้าทั้งสองดังที่เจ้าได้เมตตาต่อผู้ที่ตายไปแล้วและต่อแม่ ขอพระเจ้าให้เจ้ามีเหย้ามีเรือน ขอให้ต่างก็ได้ไปมีความสุขกับครอบครัวใหม่เถอะ” แล้วนาโอมีก็จูบลาลูกสะใภ้ทั้งสอง ต่างก็พากันร่ำไห้ลูกสะใภ้ทั้งสองต่างก็พูดว่า “อย่าเลย เราทั้งสองจะกลับไปกับแม่ไปถึงชนชาติของแม่”

แต่นาโอมีบอกให้ลูกสะใภ้ทั้งสองกลับไปตามทางของพวกเขา เพราะนางเองไม่มีลูกชายที่จะสามารถรับนางทั้งสองไปดูแลเป็นภรรยาได้อีกแล้ว ขอให้พวกนางกลับบ้านไปเผื่อจะมีโอกาสแต่งงานและสร้างครอบครัวใหม่อีกครั้งหนึ่ง ต่างก็พากันส่งเสียงร้องไห้อีกครั้ง แล้วโอรปาห์ก็จำใจจูบลาแม่ผัวไป แต่นางรูธนั้นยังเกาะแม่ผัวไว้ไม่ไปไหน  นาโอมีจึงว่า “ดูซิ พี่สะใภ้ของเจ้ากลับไปหาชนชาติของเขา และหาพระของเขาแล้ว จงกลับไปตามพี่สะใภ้ของเจ้าเถิด”  แต่รูธตอบว่า “ขอแม่อย่าวิงวอนให้ฉันจากแม่หรือเลิกติดตามแม่ไปเลย เพราะแม่จะไปไหน ฉันจะไปด้วยและแม่จะอาศัยอยู่ที่ไหนฉันก็จะอยู่ที่นั่นด้วย ญาติของแม่จะเป็นญาติของฉัน และพระเจ้าของแม่ก็จะเป็นพระเจ้าของฉัน แม่ตายที่ไหน ฉันจะตายที่นั่น และจะขอให้ฝังฉันไว้ที่นั่นด้วย ถ้ามีอะไรมาพรากฉันจากแม่นอกจากความตาย ก็ขอพระเจ้าทรงลงโทษฉันอย่างสาหัสเถิด”

เมื่อนาโอมีเห็นว่ารูธตั้งใจจะไปด้วยจริงๆ นางก็ไม่พูดห้ามปรามอีก ทั้งสองจึงออกเดินทางไกลมาถึงเมืองเบธเลเฮ็มซึ่งเป็นบ้านเกิดของนาโอมี ชาวบ้านต่างก็พากันแตกตื่นเมื่อพบนาโอมี พวกผู้หญิงต่างถามกันว่า ”คนนี้เป็นนาโอมีจริงๆ หรือ?” “ใช่ นาโอมีใช่มั๊ย?”  แต่นาโอมีกลับตอบพวกเขาว่า “ขออย่าเรียกฉันว่านาโอมีอีกเลย แต่เรียกฉันว่า มาราเถอะ เพราะว่าองค์มหิทธิฤทธิ์ให้ฉันต้องประสบเหตุร้ายเช่นนี้” เหตุที่นางพูดเช่นนี้ก็เพราะชื่อ “นาโอมี” แปลว่า สุขสบาย แต่คำว่า “มารา” แปลว่า ขมขื่น นางคงใคร่ครวญชีวิตอันแสนยากลำบากของนางและสามีที่ต้องอดอยากข้นแค้นเมื่อตอนที่อิสราเอลเกิดการกันดารอาหาร จนต้องอพยพย้ายครอบครัวของนางไปอาศัยอยู่ในแผ่นดินโมอับ หน้ำซ้ำสามีนางก็ต้องมาตายและจบชีวิตลงในแผ่นดินของชาวต่าง ชาติ ไม่เพียงเท่านั้นลูกชายของนางก็มาเสียชีวิตลงไม่ใช่คนเดียวแต่ทั้งสองคน ปล่อยให้นางและลูกสะใภ้กลายเป็นม่ายไร้คนปกป้องดูแล ชีวิตที่นางต้องประสบจะเรียกว่า สุขสบายได้อย่างไร ตรงกันข้ามมันเต็มไปด้วยความขมขื่น

(ในสมัยนั้น หญิงม่ายที่ไม่มีลูกหลานจะมีความเป็นอยู่อย่างแร้นแค้นยากลำบาก เพราะไม่มีสิทธิ์ถือครองที่ดินของครอบครัวได้ เมื่อไม่มีที่ดินสำหรับอยู่อาศัยและทำกิน พวกเขาจึงต้องคอยพึ่งพาความเมตตาของผู้อื่น)

แผนการแห่งความรอด

พระธรรมนางรูธเริ่มต้นด้วยเรื่องของความแร้นแค้น ความตาย ความขมขื่น สูญเสียสิ้นหวัง สำหรับนาโอมีแล้ว เมื่อลูกชายทั้งสองคนตายก็เท่ากับพงศ์พันธุ์ของนางจะไม่มีลูกหลานสืบตระกูลอีกต่อไป ครอบครัวของนางเหมือนมาถึงจุดอวสาน แต่ความสูญเสียทั้งหมดทั้งมวลที่ดูเหมือนทุกสิ่งอย่างจะผิดพลาดไปหมด มันไม่ได้เกินการควบคุมและครอบครองขององค์พระผู้เป็นเจ้าของเราเลย ความบาปหรือความผิดพลาดของมนุษย์อาจทำให้ชีวิตของตนเองหรือผู้อื่นประสบกับปัญหาความยากลำบากหรือแม้แต่ความตาย แต่ทุกสิ่งไม่เคยเกินการควบคุมของพระเจ้า พระองค์มีแผนการที่ยิ่งใหญ่ที่เกินความคาดหมายรอคอยครอบครัวของนาโอมีและรูธอยู่

พระคัมภีร์เกี่ยวข้องกับหนูอย่างไร

ภาพที่ 5  เมื่อหนูต้องประสบพบเจอกับปัญหาร้ายๆ ในชีวิต หลายครั้งไม่เข้าใจว่าทำไมมันจึงเกิดเรื่องแย่ๆ แบบนี้กับหนู (เปิดโอกาสให้เด็กได้แบ่งปัน) อย่าลืมว่า พระเจ้าผู้ครอบครองทุกสิ่ง ผู้รู้ทุกอย่าง มีแผนการที่ดีในชีวิตของหนู และเห็นชีวิตของหนูตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่มีอะไรที่เกิดขึ้นที่ทำให้พระองค์แปลกใจหรือตกใจ หากหนูยังไม่เคยต้อนรับพระเยซูเป็นพระผู้ช่วยให้รอดของหนู พระเจ้าตรัสว่า “ความรอดของคนชอบธรรมมาจากพระยาห์เวห์พระองค์ทรงเป็นที่ลี้ภัยของเขาในเวลายากลำบาก” (สดุดี 37:39) หนูสามารถตัดสินใจเชื่อและวางใจในพระเจ้า เพื่อหนูจะได้รับความรอดและให้พระเจ้าเป็นพระผู้ช่วยให้หนูสามารถผ่านพ้นปัญหาต่างๆ ไปได้ หากหนูเป็นลูกของพระองค์แล้ว หนูสามารถวางใจพระเจ้าว่าพระองค์มีแผนการที่ดีเลิศในชีวิตของหนู ถึงแม้ว่าตอนที่หนูทุกข์ใจ ต้องเจอกับเรื่องน่าผิดหวัง ถึงแม้หนูจะไม่เข้าใจและไม่รู้ว่าจะแก้ปัญหาอย่างไร หนูสามารถบอกกับพระเจ้าได้ว่า “พระเจ้า หนูขอเชื่อและวางใจพระเจ้า ขอพระองค์ช่วยปกป้องหนู ช่วยให้หนูอดทนและช่วยให้หนูผ่านอุปสรรคปัญหานี้ไปให้ได้ด้วย”

รูปภาพประกอบ

ข้อกำหนดในการใช้บทเรียนรูปภาพ  เราต้องการให้บทเรียนและรูปภาพประกอบเป็นพระพรสำหรับทุกท่าน ดังนั้นจึงขอความร่วมมือจากท่านที่จะไม่นำไปใช้ในเชิงพาณิชย์ หรือใช้ในทางที่เบี่ยงเบนไปจากวัตถุประสงค์ของเรา

คำถามอภิปราย

  1. ทำไมครอบครัวของเอลีเมเลคกับนาโอมีต้องอพยพย้ายถิ่นฐาน?
  2. พวกเขาอพยพย้ายครอบครัวของเขาไปอยู่ที่ไหน?
  3. เกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นกับสามีและลูกชายของนาโอมี?
  4. ทำไมนาโอมีจึงตัดสินใจจะเดินทางกลับเบธเลเฮ็ม?
  5. ใครที่ต้องการจะเดินทางติดตามนาโอมีกลับไปเบธเลเฮ็ม? ทำไม?
  6. ถ้าหนูเป็นนาโอมี หนูจะโทษพระเจ้าสำหรับเหตุการณ์ร้ายๆ ที่เกิดขึ้นกับหนูไหม? อย่างไร?
  7. หนูประทับใจใครมากที่สุดจากบทเรียนในวันนี้ และทำไม?

กิจกรรม

เราเป็นเพื่อนแบบไหนกัน?

สิ่งที่ต้องเตรียม

  • กระดาษเขียนโจทย์เพื่อให้เด็กแสดง

วิธีทำ

  • ให้เด็กจับคู่สองคนเพื่อจะทำงานเป็นทีมเล็กๆ
  • ครูจะให้โจทย์เด็กแต่ละคู่เพื่อให้เด็กลองจำลองสถานการณ์และออกมาแสดงบทบาทสมมุติเพื่อให้เด็กคนอื่นๆ หน้าชั้นเรียน และให้เด็กทุกคนช่วยกันตอบว่าการแสดงสถานการณ์จำลองนั้นแสดงว่าเขาเป็น “เพื่อนแท้” หรือ “เพื่อนที่ต้องเปลี่ยนนิสัย” (อาจใช้สัญลักษณ์มือ เช่น ชูนิ้วโป้งเหมือนกดไลค์เพื่อแสดงว่าเป็นเพื่อนแท้ และคว่ำนิ้วโป้งลงพื้นแสดงว่าเป็นเพื่อนที่ต้องเปลี่ยนนิสัย)
  • เด็กแต่ละคู่จะได้โจทย์คู่ละ 2 ข้อซึ่งเป็นลักษณะของเพื่อนที่ตรงกันข้ามกัน เด็กสามารถเลือกจะแสดงบทบาทเพื่อนที่ดีหรือเพื่อนที่ต้องเปลี่ยนนิสัยก่อนก็ได้
  • ครูอาจต้องช่วยให้คำปรึกษาหรือแนะนำเด็กในการแสดงหากจำเป็น

โจทย์เพื่อให้เพื่อนในชั้นเรียนทายกันว่า พวกเขาเป็นเพื่อนแบบไหน?

กิจกรรม

เพื่อนที่ดีจากพระคัมภีร์

มาช่วยจับคู่ข้อพระคัมภีร์กับลักษณะของเพื่อนที่ดีกัน

กิจกรรม

ทำที่บ้าน